ไอซ์แลนด์ ดินแดนฝั่งตะวันตกของ “สแกนดิเนเวีย” เหนือสุดของโลกที่ใครหลายคนอยากไปสัมผัส การเดินทางไปไอซ์แลนด์จึงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่ต้องการตามล่าแสงเหนือ แม้โอกาสเห็นแสงเหนือก็ต้องอาศัยโชคช่วยอยู่มาก
ทั้งนี้เนื่องจากไทยยังไม่มีไฟลต์บินตรงสู่ไอซ์แลนด์ จึงต้องบินมาต่อเครื่องที่ยุโรป ก่อนเปลี่ยนเครื่องบินไปยังไอซ์แลนด์ ซึ่ง “กรุงโคเปนเฮเกน” ประเทศเดนมาร์ก มีสายการบินไอซ์แลนด์ แอร์ บินตรงเข้าเมือง “เรคยาวิก” (Rekjavik)เมืองหลวงที่ใกล้ขั้วโลกเหนือที่สุดในโลก จากโคเปนเฮเกนไปลงสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ไอซ์แลนด์ ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง
เมืองนี้นอกจากมี “ตำนานไวกิ้งโบราณ”ที่มีหลักฐานแสดงถึงการปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน ยังได้รับสมญานามว่า“อ่าวแห่งควัน” จากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน อันเป็นผลมาจากความร้อนของ “ภูเขาไฟใต้ท้องทะเล” จุดหมายแรกที่ไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ คือ “บลูลากูน” หรือทะเลสาบสีฟ้าห่างจากสนามบินนานาชาติเคฟลาวิคราว 10 กิโลเมตร ผ่อนคลายไปกับการอาบน้ำแร่ใต้ดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ว่ากันว่าช่วยรักษาโรคได้ ซึ่งน้ำแร่สีฟ้าอันบริสุทธิ์ที่ปล่อยลงสู่บลูลากูนเป็นน้ำที่ไหลมาตามท่อจากโรงงานพลังงานความร้อนใต้พิภพใกล้ๆ อุณหภูมิ 38-40 องศาเซลเซียส ขณะที่ภูมิประเทศรอบๆเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งปกคลุมภูเขาไฟ
เมืองเรคยาวิคมีแลนด์มาร์คให้ไปถ่ายรูปได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เดอะซันวอยเอจเจอร์” (The Sun Voyager) ประติมากรรมอันเลื่องชื่อที่ใช้โครงสร้างหลักเป็นสเตนเลสส์สตีล หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่แสดงถึงศรัทธาในความหวัง การพัฒนา และเสรีภาพของชาวไอซ์แลนด์ เป็นไอคอน หนึ่งของเรคยาวิกที่มีคนมาถ่ายรูปมากที่สุดก็ว่าได้ โดยเป็นผลงานชิ้นเอกของ “ยอน กุนนาร์เอาร์นาสัน”ประติมากรท้องถิ่น ประติมากรรมชิ้นนี้ว่าเลิศแล้ว ฉากหลังยิ่งงดงาม เพราะคุณจะเห็น “ภูเขาเอสย่า” (Esja)ซึ่งมีหิมะปกคลุม ตัดกับท้องฟ้าใส
ที่นี่ก็มีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่นั่นคือ “โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา” (Hallgrimakirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่กลางกรุงเรคยาวิก สูงถึง 73 เมตร ติดอันดับโบสถ์ที่ใหญ่สุดในประเทศอีกด้วย ที่สำคัญในโบสถ์มีลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุด ให้เราได้ชมความงามรอบกรุงเรคยาวิกได้แบบ 360 องศา มองเห็นได้ทั้งเมืองและภูเขาหิมะแต่งแต้มขอบฟ้าโดยรอบ หน้าโบสถ์เป็นรูปของ “เลฟร์ อีริกสัน” ไวกิงส์ที่ว่ากันว่าค้นพบอเมริกาก่อนโคลัมบัส ราว 500 ปี
อีกหนึ่งไฮไลต์ของไอซ์แลนด์ คือ “ทะเลสาบธารน้ำแข็งขนาดใหญ่” ลึกถึง 200 เมตร มีชื่อว่า “โจกุลซาลอน” (Jokulsarion)โจกุล แปลว่า น้ำแข็ง ส่วน ซาลอน แปลว่า ทะเลสาบ ซึ่งทะเลสาบน้ำแข็งแห่งนี้ ความอลังการอยู่ตรงก้อนน้ำแข็งใหญ่ละลายจากภูเขาน้ำแข็งด้านบนและไหลออกจากทะเลสาบสู่มหาสมุทร อากาศจึงหนาวมาก เพราะเป็นปากอ่าวออกทะเล คนในท้องถิ่นเรียกว่า “Diamond Beach” นั่นอาจเป็นเพราะภาพน้ำแข็งลอยอยู่เต็มทะเลสาบมีรูปร่างสวยงามดุจดั่งเพชร ทั้งบริเวณนี้ยังเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล, เจมส์บอนด์ 007
การท่องเที่ยวไอซ์แลนด์หน้าหนาว ท่ามกลางหิมะขาวโพลนจึงเป็นเสน่ห์แห่งความประทับใจในดินแดนแห่งนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560