หจก.เจ แอนด์ เจ เล็งสร้างรายได้ปีนี้ 600 ล้านบาทจากการขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าเพิ่มที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะอยุธยา เฟส 5 และปราจีนบุรีพร้อมเพิ่มจำนวนรถขนส่งสินค้าตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการ
นายสุจินต์ ทรัพย์ล้อม ประธานกรรมการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ แอนด์ เจ แวร์ เฮ้าส์ แอนด์ เซอร์วิส ผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่า การบริการจัดการคลังสินค้า และบริการขนส่งสินค้า เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวค่อนข้างดี ส่งผลให้มีความต้องการใช้คลังสินค้าเพิ่มมากขึ้นตาม ในปีนี้จึงได้ลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรีในพื้นที่ 50 ไร่ เพิ่มอีก 1 แห่ง จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้
อีกทั้ง ขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยาแห่งที่ 5 หลังจากที่คลังสินค้าทั้ง 4 แห่งในอุตสาหกรรมดังกล่าวถูกเช่าจนเต็มพื้นที่แล้วทั้งหมด แต่ยังมีความต้องการจากผู้ประกอบการในการเช่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จเสร็จภายในปีนี้
ทั้งนี้ จากการที่มีคลังทั้ง 6 แห่ง จะส่งผลให้เจ แอนด์ เจฯ มีพื้นที่ให้เช่าของคลังสินค้าเพิ่มเป็น 130,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีอยู่ 100,000 ตารงเมตร ซึ่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมายังได้มีการลงทุนซื้อรถบรรทุกเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าของเจ แอนด์ เจ ทำให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ประกอบการได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปี 2560 บริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20-30% จากปีที่ผ่านมา จากที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้น
"ในปีที่ผ่านมามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้เช่าคลังสินค้า 40% การขนส่งสินค้า 33% และบริหารจัดการคลังสินค้า 27% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้ สามารถสร้างรายได้ต่อเดือนได้แล้วประมาณ 47-48 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในระยะต่อไปหลังจากนี้จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เป้าหมายรายได้ของบริษัทเป็นไปได้อย่างแน่นอน"
นายสุจินต์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบันแบ่งเป็นผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นประมาณ 80% ขณะที่อีก 20% เป็นผู้ประกอบการของประเทศไทย เช่น F&N ในเครือไทยเบฟเวอเรจ โดยในส่วนของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าที่จะเปิดที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะปราจีนบุรีนั้น ขณะนี้ถูกจับจองเช่าเต็มพื้นที่แล้ว 100% จาก บริษัท ฮอนด้า ของประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี ภายในปีนี้มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าไปสู่นิคมอุตสาหกรรมลาดกะบัง และที่ราชบุรี
สำหรับจุดเด่นของบริษัทนั้น อยู่ที่การเข้าสู่มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นการทำคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice : GMP) ซึ่งจัดทำขึ้นโดยหน่วยงานมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ ทำให้สามารถใช้เก็บอาหารและเครื่องมือทางการแพทย์ได้ อีกทั้งยังยังมีพื้นที่ให้ลูกค้าประกอบสินค้าใน บางขั้นตอนได้ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าแรง ค่าขนส่ง และประหยัดเวลาในการผลิต
นอกจากนี้ ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน มีรปภ.คอยดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีระบบ CCTV 24 ชั่วโมง และมีประกันภัยป้องกันความเสี่ยง ด้านรถขนส่งสินค้าก็ได้มีการติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบสถานะเชื่อมกับ GPS ที่ตัวรถ เพื่อติดตามและควบคุมเส้นทางเดินรถ สามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าไปกับรถ คันไหน เพื่อป้องกันการสูญหายระหว่างทาง