“หมู-ไก่”ไทยผวา สหรัฐฯ แย่งตลาดจีน

การลงนามในข้อตกลงทางการค้าระยะแรก (เฟส 1) ระหว่างสหรัฐฯ และจีน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ส่วนหนึ่งสาระสำคัญของข้อตกลงฯ ในด้านการขยายการค้าและการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร จีนจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเวลา 2 ปี (วันที่ 1 ม.ค. 2563 –31 ธ.ค. 2564) ในจำนวนนี้ในส่วนของสินค้าเกษตรมีมูลค่า 3.20 หมื่นล้านดอลลาร์ฯเช่น เมล็ดพืชน้ำมัน เนื้อวัว หมู ไก่ อาหารทะเล อาหารสัตว์ ซึ่งหลายฝ่ายคาดจะมีผลกระทบกับสินค้าเกษตรของไทยในกลุ่มดังกล่าว

                                     สุรชัย  สุทธิธรรม

นายสุรชัย  สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากจีนจะซื้อเนื้อสุกร(เนื้อหมู)จากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบกับไทยบ้างแต่คงไม่มากนัก เนื่องจากปัจจุบันหลังมีโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรยังระบาดในจีน เป็นโอกาสส่งออกหมูมีชีวิตของไทยไปจีนมากขึ้น โดยเพิ่งส่งออกได้เพียง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้นในระดับไม่เกิน 1,000 ตัวต่อวัน โดยส่งออกทางเรือทางด่านเชียงแสน จังหวัดเชียงรายไปยังจีนทางตอนใต้แถบมณฑลยูนนาน

“หมูที่เราส่งออกไปจีนเป็นหมูที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว เป็นหมูจากฟาร์มมาตรฐาน ปลอดโรคปากเท้าเปื่อย ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ และมาตรฐานสมาคมฯ ซึ่งทางจีนยังมีความต้องการอีกมากจากไม่เพียงพอบริโภค หากเขาไปนำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มคงไม่กระทบกับเรามาก เพราะความต้องการบริโภคหมูของจีนยังมีอีกมาก”

นายคึกฤทธิ์  อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 จีนได้ยกเลิกการแบนการนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกจากสหรัฐฯที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งจะส่งผลให้โรงงานแปรรูปสัตว์ปีกของสหรัฐฯที่ผ่านการรับรองจากทางการจีนแล้ว 172 โรงสามารถส่งออกไปจีนได้อีกครั้ง ซึ่งจากความตกลงการค้าเฟส 1 ที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่ม รวมถึงในสินค้าไก่ คงกระทบกับไทยบ้าง

แต่ทั้งนี้เมื่อเทียบศักยภาพในการแข่งขันแล้ว สินค้าไก่ของไทยก็ยังมีโอกาสส่งออกไปจีนได้เพิ่ม(ช่วง 11 เดือนแรกปี 2562 ไทยส่งออกสินค้าไก่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไก่สดแช่แข็งไปจีนมูลค่า 5,902 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 276% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจีนยังมีปัญหาโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรระบาด ทำให้มีความต้องการนำเข้าสินค้าไก่ไปบริโภคทดแทนหมูมากขึ้น) โดยสินค้าไก่ไทยได้เปรียบสหรัฐฯจากอยู่ใกล้ตลาดจีนกว่า ขนส่งทางเรือ 7 วันก็ถึง ขณะที่สินค้าไก่สหรัฐฯหรือไก่บราซิลต้องใช้เวลาเดินทางเรือเป็นเดือนมาจีน ทำให้ความสดใหม่ของสินค้าลดลง

“หากจีนหันไปนำเข้าไก่สหรัฐฯเพิ่ม คงกระทบไทยบ้าง เพราะจีนจะมีซัพลายมากขึ้น แต่เรายังได้เปรียบสหรัฐฯในเรื่องความสดของสินค้าที่อยู่ใกล้จีนกว่า ใช้เวลาขนส่งน้อยกว่า โดยสินค้าไก่ที่จีนนำเข้าจากไทยส่วนใหญ่เป็นตีนไก่ และปีกกลาง มีน่องไก่บ้าง ส่วนสินค้าไก่ของสหรัฐฯจะเป็นเนื้อน่อง เนื้อน่องติดสะโพก ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้นำเข้าว่าเขาจะซื้อจากใครแล้วนำไปขายแล้วมีกำไร ซึ่งจากไก่สหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาเดินทางมาจีนเป็นเดือนเมื่อมาถึงจีนแล้ว ราคาไก่ในตลาดอาจผันผวนทำให้ผู้ค้าขาดทุนได้”