สกัดน้ำมันเถื่อนทะลักทุกช่องทาง ดันปาล์มเสถียร 5-6 บาทต่อ กก.

ในงานสัมมนา "B 10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมันสู่ความยั่งยืน" จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ และเครือเนชั่น ณ ลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ วันที่ 29 มกราคม 2563) มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมแลกเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมน้ำมันดีเซลบี 10 กันอย่างคับคั่ง

-คุมเข้มน้ำมันเถื่อนทุกช่องทาง

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า ปัญหาปาล์มน้ำมันใน 10 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาการควบคุมไม่ได้ อาทิ สหภาพยุโรป (อียู) งดนำเข้าน้ำมันปาล์ม อินเดียขึ้นภาษีนำเข้าปาล์ม ส่วนมาเลเซียขายดัมพ์ตลาดโลกส่งผลทำให้ราคายิ่งตกต่ำมากขึ้น เป็นต้น ในขณะนั้นคิดว่าต่อไปประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่ชั่วโมงนี้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงานจับมือกันเหนียวแน่นมาก

อันดับแรกน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ) 2 ล้านตัน ที่เป็นส่วนเกินไม่หวังพึ่งต่างประเทศแล้ว จากเข้ามาสู่กระบวนการแนวคิดที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซลบี10 เนื่องจากน้ำมันบริโภคเพิ่มไม่ได้แล้วคืออยู่ที่ 1.2 ล้านตัน จากน้ำมันทั้งประเทศมีปาล์มน้ำมันดิบ หรือซีพีโอ ประมาณ 3.2 ล้านตัน แล้วถ้าไม่ให้กระทรวงพลังงานมาดูดซับก้อนนี้ออกไป จะทำให้ราคาปาล์มมีเสถียรภาพ

ปัจจุบันกระทรวงพลังงานมีการคุมมิเตอร์บี100  ส่วนของกรม ล่าสุดสำนักงบประมาณเพิ่งได้อนุมัติจากสำนักงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ติดมิเตอร์จำนวน 500 แท็งก์ คาดจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นข่าวดี ต่อไปจะได้ทราบว่าน้ำมันดิบที่เข้า-ออก มีปริมาณเท่าไร แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงจะติดตั้งภายใน 6 เดือน ซึ่งจะมีประมูลอีอ็อกชั่นในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ยังมีมาตรการการสกัดการลักลอบการนำเข้าน้ำมั้นปาล์มโดยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ “หน่วยเคลื่อนที่เร็วเป็นตำรวจ 200 นาย  หากมีเบาะแส ลักลอบ สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1569 ควบคู่กับการกำหนดด่านนำเข้าและนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม เพื่อควบคุมกำกับดูแลการนำเข้าน้ำมันปาล์มในระบบปกติ การลักลอบนำเข้า รวมทั้งการถ่ายลำผ่านแดนไปประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก และทางน้ำ เพื่อป้องปรามการนำสินค้าที่ผ่านแดนมาใช้หรือจำหน่ายภายในประเทศ จะกำหนดด่านนำเข้าและนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ดังนี้

 1) ด่านนำเข้าสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านศุลกากรมาบตาพุด สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ และสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง 2) ด่านนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ด่านต้นทาง จำนวน 1 ด่าน คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ

นอกจากนี้กำหนดด่านปลายทางสำหรับการนำผ่านน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มไปยังแต่ละประเทศ ได้แก่ 1) ด่านศุลกากรจันทบุรี เป็นด่านปลายทางไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา 2) ด่านศุลกากรหนองคาย เป็นด่านปลายทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ 3) ด่านศุลกากรแม่สอด เป็นด่านปลายทางไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

                                                            วิชัย  โภชนกิจ

“มาตรการดังกล่าวนี้ยอมรับว่าเหนื่อยมากทั้งเจรจาค่ายรถให้เพิ่มการใช้บี10 มีการรับประกัน และการช่วยลดภาษีสำหรับผู้ที่สนับสนุนการใช้น้ำมันบี10 อย่างไรก็ดีหากในระยะยาวราคาที่อยากเห็นและมีเสถียรภาพราคาผลปาล์มอยู่ที่ 5-6 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ขณะที่ต้นทุนเกษตรกรอยู่ 3.40 บาทต่อ กก.ต่อไปราคาจะขึ้นลงก็ขึ้นอยู่กับการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นชาวสวนเป็นกลไกสำคัญที่จะเพิ่มราคาปาล์มด้วยการใช้บี10

 

 

-ชี้ยังมีอีกหลายตัวแปร

ด้านนางสาวัน ตัน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ดูแลทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคา  ซึ่งในห่วงโซ่โรงสกัดเป็นผู้ผลิตหีบสกัดน้ำมันปาล์ม ดังนั้นราคาจึงกำหนดโดยโรงกลั่นน้ำมันปาล์มและโบรกเกอร์  และการที่มีการกำหนดให้บี10 เป็นมาตรฐานได้ส่งผลดีทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานย้ำความมั่นใจว่าราคาปาล์มจะไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกก. ควบคู่กับกรมการค้าภายในจะต้องประกาศราคาแนะนำตลอด พ่วงกับสต๊อกน้ำมันดิบเช็กได้ว่ามีจริงหรือไม่ เมื่อตรวจแล้วจะต้องเช็กคุณภาพน้ำมันว่ามีคุณภาพดีเท่าไร และมีน้ำมันปาล์มดิบที่มีกรดยูริกเท่าไร ที่สำคัญการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะรับน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้า จำนวน 1.01 แสนตัน ส่งมอบภายในเดือนเมษายนนี้จะทำให้ราคาขึ้นแน่นอน

                                                               สาวัน  ตัน

นอกจากนี้ ยังมีตัวแปรที่มีผลทำให้ราคาขึ้นลง อย่างสินค้าค้าผ่านแดน ไม่ทราบว่าตกหล่นในเมืองไทยเท่าไร หากเป็นไปตามที่อธิบดีกรมการค้าภายในควบคุมได้จะทำให้ราคามีเสถียรภาพแน่นอน อ ย่างไรก็ดีหากผลิตบี10 ทุกปั๊มมีจำหน่ายในวันที่ 1 มีนาคม 2563 เกษตรกรพร้อมที่จะใช้แน่นอน

-เร่งปาล์มปั่นไฟตีกันเก็งกำไร

ด้านนายพันศักดิ์ จิตรรัตน์  ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน  สภาเกษตรกรแห่งชาติ และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มนํ้ามันแห่งชาติ (กนป.) กล่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานมาย้ำให้ความมั่นใจว่าจะเดินหน้าน้ำมันบี10 แน่นอน ยิ่งทำให้อนาคตปาล์มมีความมั่นคง วันนี้พื้นที่ปลูกทั้งประเทศมี จำนวน 5.7 ล้านไร่ ผลผลิตประมาณ 17 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบประมาณกว่า 3 ล้านตัน แยกสัดส่วนเป็นน้ำมันบริโภค 1.2 ล้านตัน ที่เหลืออีก 2 ล้านตันก่อนหน้านี้มีมาตรการบี5 และบี7 ไม่ได้ผล แต่พอดำเนินการใช้บี10 แล้วเห็นผลออกฤทธิ์ชัดเจนจะทำให้เกิดความสมดุลในน้ำมันปาล์ม

                                                      พันศักดิ์  จิตรรัตน์

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ 1.น้ำมันในสต๊อกต้องชัดเจน ขณะนี้มิเตอร์เริ่มเห็นแล้วว่าจะติดแน่นอน 2.โครงสร้างราคาน้ำมันปาล์ม ยกตัวอย่างราคาผลปาล์มเท่านี้ ราคาน้ำมันซีพีโอควรจะเท่าไร และ 3.การกำหนดด่านนำเข้าสินค้าผ่านแดนจะต้องเร่งออกมาโดยเร็ว 

“ก่อนหน้านั้นที่ราคาสูงไปถึง 8 บาทต่อกิโลกรัม เพราะเกิดจากการปั่นราคาของพ่อค้าที่มีน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อกทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงถึง 38-40 บาทต่อกิโลกรัม ผมว่าเกินไป ขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ราคา 20 บาทเศษต่อกิโลกรัม จากน้ำมันดิบในสต๊อกราคาแค่ 17 บาทเศษนี้ทำให้พ่อค้าที่ตุนน้ำมันราคาถูกไว้มาฟันกำไรในช่วงนี้ดังนั้น กฟผ.จะต้องส่งมอบน้ำมันซีพีโอไปผลิตกระแสไฟฟ้าให้โดยเร็วสำหรับคู่ที่มีสัญญาจะส่งมอบ”

 

-ปตท.ย้ำ 1 มี.ค.บี10 ขายทุกปั๊ม

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นโยบายการส่งเสริมบี 10 ของกระทรวงพลังงาน ปตท.ได้นำมาเป็นนโยบายหลักในการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ ช่วยสร้างสมดุลให้ระบบน้ำมันปาล์ม โดยขณะนี้ปตท.มีน้ำมันดีเซลบี 10 จำหน่ายครบทุกจังหวัดแล้วจำนวน 559 แห่ง ซึ่งในจังหวัดกระบี่มีบี 10 จำหน่ายแล้ว 10 แห่ง ในสัปดาห์นี้จะมีครบทุกแห่ง และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นนับจากวันที่ 1 มีนาคม2563 เป็นต้นไป ปั้มปตท.ทุกแห่งจะมีบี 10 จำหน่ายครบทุกสถานีทั่วประเทศ

                                                    อรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าคุณภาพของน้ำมันดีเซลบี 10 ได้ผ่านการวิจัยและทดสอบคุณภาพผ่านการใช้รถยนต์จริง จากศูนย์วิจัยของปตท.ที่ใหญ่สุดในอาเซียนมาแล้ว ผลการทดสอบไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใด

อีกทั้งที่ผ่านมา ทางกระทรวงพลังงานได้มีการหารือกับค่ายรถยนต์มาอย่างต่อเนื่อง และมีการรับประกันรถยนต์ที่ใช้ได้กว่า 60 % จากจำนวนรถยนต์ที่มีอยู่ ซึ่งจากจำนวนปั้มของปตท.ที่จำหน่ายบี 10 อยู่ในขณะนี้ วันละ 1 ล้านลิตร ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มได้ 1,000 ตันต่อวัน หากสถานีน้ำมันที่มีอยู่ทุกค่ายหันมาจำหน่ายบี 10 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปครบทุกแห่ง จะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มได้ 4-6 แสนตันได้ อีกทั้งเป็นการช่วยประหยัดเงินในเป๋า เพราะบี 10 ถูกกว่าดีเซลบี 7 ถึง 2 บาทต่อลิตร

-อย่าขยายปลูกทำราคาตก

“อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาผลผลิตปาล์มปรับตัวดีขึ้นแล้ว ในการสร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน เกษตรกรต้องใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่ม เพื่อรอเวลาให้ระบบปาล์มน้ำมันเกิดความสมดุลก่อนอย่างน้อยอาจจะหลังจากนี้ไป 1 ปีก่อน และการจะขยายพื้นที่ปลูก ก็ต้องสอดรับปริมาณของการใช้น้ำมันของประเทศที่ขยายตัวราว 1-2 % ต่อปีด้วย หรือราว 3-5 หมื่นไร่ต่อปีเท่าน ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลของปาล์มน้ำมันไว้ได้ เกิดความยั่งยืน หากขยายมากกว่านี้ก็จะส่งผลให้ราคาปาล์มตกต่ำลงมาอีก

นอกจากนี้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม เพราะขณะนี้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศไทยปรับตัวสูงขึ้นมากเกือบ 2 เท่าตัวของประเทศเพื่อนบ้าน หากสกัดกั้นไม่ดีก็จะทะลักเข้ามา ส่งผลต่อราคาปาล์มตกต่ำอีก

ซึ่งวันนี้เองในการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม กลุ่มปตท.ได้ร่วมกับกระทรวงพลังงาน ที่มีเทคโนโลยี ที่จะสามารถตรวจจับดีเอ็นเอของน้ำมันปาล์ม ว่ามาจากแหล่งกำเนิดใดๆ ได้แล้ว ดังนั้น ฝากเตือนผู้ที่คิดจะลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้ามาจะสามารถตรวจจับได้แน่

ส่วนราคาผลผลิตปาล์ม ที่เหมาะสมควรจะอยู่ประมาณ 5-6 บาทต่อ กก.เพราะสร้างผลกำไรให้กับเกษตรกรค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนอยู่ที่ 3 บาทต่อ กก. เพราะหากไปอยู่ที่ 8 บาทต่อ กก. เกรงว่าจะจูงใจให้มีการปลูกปาล์มมากขึ้น ในที่สุดผลผลิตปาล์มจะตกต่ำอีก

อย่างไรก็ตามอยากให้ทั้ง 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ บูรณาการในส่วนต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งด้านข้อมูลการเพาะปลูก สต๊อกน้ำมันปาล์ม โครงสร้างราคา เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น