แหล่งข่าวจากวงการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการที่ "เจนเนอรัล มอเตอร์ส" ยักษ์ใหญ่อเมริกันปิดสายการผลิตในประเทศไทย ซึ่งตั้งโรงงานอยู่ที่จังหวัดระยอง ทั้งในส่วนการขายผ่านแบรนด์ “เชฟโรเลต” หลังเดินสายการผลิตปิกอัพตั้งแต่ปี 2543 จนมียอดสะสมกว่า 1.4 ล้านคัน ถึงวันนี้ประกาศปิดตัวลงชัดเจนแล้ว อีกทั้งค่ายรถอื่นๆบางรายในประเทศชะลอการผลิตลง ยอมรับว่าบรรดาซัพพลายเชนที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศจะได้รับผลกระทบด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศราว 2,500 รายส่วนใหญ่จะผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ต่างๆในประเทศทั้งหมด และ “เชฟโรเลต” ก็เป็นหนึ่งในฐานลูกค้าที่ป้อนชิ้นส่วนรถปิกอัพให้จำนวนมาก ก็จะทำให้บรรดาซัพพลายเออร์ที่เคยมีฐานลูกค้าจากค่ายรถดังกล่าวได้รับผลกระทบแน่นอน เป็นปัญหาที่มาจากหลายสาเหตุทั้งเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงการระบาดของไวรัสโคโรนา สังเกตได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีบางโรงงานชะลอการผลิต หลังจากตลาดส่งออกรถยนต์เริ่มชะลอตัว
ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์โดยมีขนาดกำลังผลิตรวมราว 2.1 ล้านคัน คิดเป็น 10% ของจีดีพีภาคอุตสาหกรรม และคิดเป็น 5%ของจีดีพีประเทศ โดยกำลังผลิตเต็มขีดความสามารถรวมของค่ายรถทั้งหมดสามารถผลิตได้เต็มที่ 3 ล้านคันต่อปี แต่ปัจจุบันผลิตจริงได้ราว 2-2.1 ล้านคัน ในจำนวนี้ผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคันและขายในประเทศประมาณ 1 ล้านคัน
แหล่งข่าวจากวงการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์อีกรายตั้งข้อสังเกตว่ายังมีบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นซัพพลายให้กับ“เชฟโรเลต”สัญญชาติเดียวกันที่ตามกันมาลงทุนในประเทศไทยอีกมากกว่า 100 ราย ที่จะต้องได้รับผลกระทบโดยตรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง