นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) หารือสรุปแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. เพื่อให้การดำเนินการหลังจากนี้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กระทรวงคมนาคมวางเป้าหมายไว้ ว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้ ขสมก.กลับไปปรับปรุงแผนฟื้นฟูฯ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการต่อไปได้ โดยเป็นภาระของภาครัฐน้อยที่สุด จนถึงไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากรัฐในอนาคต ทั้งนี้แผนฟื้นฟู ขสมก.มีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหา ตามสถานการณ์ที่แท้จริง ล่าสุดได้เสนอแผนฟื้นฟูฯ ถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว ขณะเดียวกันหาก สคร.พิจารณาเห็นชอบแผนดังกล่าว จะเสนอกลับมาที่กระทรวงคมนาคม หลังจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป ภายในเดือน ก.ค.63
สำหรับ ขสมก.ได้ปรับแผนการจัดเช่ารถเมล์นั้นเป็นการเช่ารถพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน ทั้งนี้แผนดังกล่าวจะใช้รถ EV ทั้งหมดในการเดินรถ ซึ่งจะมีต้นทุนการเดินรถ จำนวน 23 บาทต่อกิโลเมตร ขณะเดียวกัน ขสมก.จะใช้งบประมาณในการจ่ายค่าเช่าให้เอกชนที่จัดหารถมาวิ่งไม่เกิน 5,000 บาทต่อปี โดยรวมค่าบำรุงรักษาและการประกันภัย นอกจากนี้จะมีการจัดเก็บค่าโดยสาร 30 บาทต่อคนต่อวัน โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน รวมถึงช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลเข้ามาช่วยแบกรับภาระขาดทุนสะสมที่ ขสมก.มีอยู่เดิมกว่า 100,000 ล้านบาท รวมถึงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ชัดเจน ทางฝ่ายบริหาร ขสมก.มั่นใจว่าเมื่อเดินตามแผนนี้หลังในปี 2572 กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาฯ (EBITDA) จะกลับมาเป็นบวก โดยระหว่างปี 2572 ขสมก.ขอให้รัฐชดเชยเงินอุดหนุน (PSO) ในวงเงินรวมไม่เกิน 9,674 ล้านบาท