นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด(มหาชน) หรือ ALTเปิดเผยว่า บริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด หรือ SIC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ RATCH โดยร่วมกันลงทุนในโครงข่ายไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงทั้งโครงข่ายใต้ดินในพื้นที่เส้นทางหลักในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สุขุมวิท พหลโยธิน-ประดิพัทธ์ และพญาไท รวมทั้งในต่างจังหวัดผ่านโครงข่ายตามแนวเส้นทางรถไฟและทางหลวงแผ่นดินสายหลัก ล่าสุดเตรียมรุกธุรกิจ Fiber Space ซึ่งเป็นธุรกิจการให้เช่าโครงข่ายไฟเบอร์ทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ธุรกิจ Fiber Space เป็นเทรนด์ใหม่ในการให้บริการเช่าไฟเบอร์พร้อมใช้ โดยไม่ต้องลงทุน และเราไม่ได้จำกัดว่า ไฟเบอร์ที่จะให้บริการแก่ลูกค้าจะต้องเป็นไฟเบอร์ของ SIC เท่านั้น อาจเป็นของโอเปอร์เรเตอร์รายอื่นก็ได้ เนื่องจากโอเปอร์เรเตอร์เป็นทั้งลูกค้าและพันธมิตร หน้าที่ของเราคือส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน ซึ่งในที่นี้คือโครงข่ายไฟเบอร์ ที่ทุกโอเปอร์เรเตอร์ต่างมีอยู่ และก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ใช้งาน เป้าหมายของ Fiber Space คือลดความสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับโอเปอร์เรเตอร์ทุกรายที่เข้าร่วมโครงการ”นางปรีญาภรณ์กล่าว
“ SIC จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ที่มีความต้องการเช่าไฟเบอร์กับเจ้าของโครงข่ายไฟเบอร์ที่ยังเหลือว่างอยู่ ในรูปแบบเหมือน Air BNB หรือ Uber ทั้งนี้ผลประโยชน์ทางอ้อมที่ส่งผลดีต่อภาพรวมก็คือ โอเปอร์เรเตอร์แต่ละรายจะลดมูลค่าการลงทุนในส่วนที่เกินจำเป็น ซึ่งจะช่วยให้โครงการจัดระเบียบสายสื่อสารของภาครัฐที่เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในปัจจุบันแก้ไขได้ง่ายขึ้น หากจำนวนไฟเบอร์ที่เกินจำเป็นเหล่านั้นได้ถูกลดทอนลง สุดท้ายบ้านเมืองก็จะสวยงามและเป็นระเบียบมากขึ้น”
จากการรวบรวมข้อมูลจากโอเปอร์เรเตอร์หลายราย พบว่าโครงข่ายไฟเบอร์ที่ยังไม่ได้ใช้งาน ยังเหลืออยู่มากกว่า 50% โดยโครงข่ายไฟเบอร์ที่จะนำมาให้บริการนั้นมีทั้งในส่วนของ SIC และโอเปอร์เรเตอร์รายอื่น สำหรับ ALT แล้ว การส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรโครงข่ายร่วมกัน มันคือจุดยืนและพันธกิจที่เราตั้งใจจะผลักดัน โดยอาศัยความเป็นกลาง และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่เราได้ปูทางไว้แล้วครอบคลุมทุกเส้นทาง ทั้งโครงข่ายไฟเบอร์ใต้ดิน แนวเส้นทางรถไฟฟ้า แนวเส้นทางรถไฟและทางหลวงแผ่นดิน (Highway) ซึ่งครอบคลุมทั่วประเทศ นอกเหนือจากนั้น ก็คือคุณภาพบริการที่มีต่อลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราใส่ใจตลอดช่วงเวลาที่เราบ่มเพาะประสบการณ์มาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี