นำร่อง 3 มอเตอร์เวย์ “อีสาน-ใต้” เชื่อม “ทางคู่”

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการปรับปรุงแผนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ควบคู่แนวเส้นทางรถไฟทางคู่ ระยะทาง 6.6 พันกิโลเมตร จำนวน 21 เส้นทาง ขณะนี้ทาง ทล.อยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางมอเตอร์เวย์ที่สามารถคู่ขนานกันได้ โดยเส้นทางที่ศึกษานั้นเป็นเส้นทางที่ ทล. เคยศึกษาและออกแบบแล้วเสร็จ อาทิ มอเตอร์เวย์นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 203.33 กิโลเมตร มอเตอร์เวย์นครราชสีมา-อุบลราชธานี ระยะทาง 301 กิโลเมตร สามารถเชื่อมต่อจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ซึ่งจะทำให้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 119 กิโลเมตร สามารถเชื่อมต่อจังหวัดในภาคใต้ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร โดยทั้ง 3 เส้นทางจะมีการสำรวจและศึกษาออกแบบความเหมาะสมเพื่อควบคู่กับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ รวมถึงแนวเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อจังหวัดที่ใกล้เคียงกัน คาดว่าจะเริ่มศึกษาและออกแบบได้ภายในปีนี้

“สำหรับการศึกษาออกแบบแนวเส้นทางที่เลือกไว้นั้น เราจะดูแนวเส้นทางที่มีแนวเส้นทางรถไฟอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเราต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วยว่าสามารถดำเนินการควบคู่กันได้ไหม เนื่องจากกรณีที่มีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์คู่ขนานรถไฟทางคู่ต้องมีการเวนคืน โดยการเวนคืน ต้องไม่กระทบต่อประชาชนหรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งนี้มอเตอร์เวย์เส้นทางใดที่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะไม่สามารถดำเนินการปรับเส้นทางคู่ขนานรถไฟทางคู่ได้”

ทั้งนี้แผนปรับปรุงมอเตอร์เวย์ควบคู่รถไฟทางคู่ นั้นถือเป็นเมกะโปรเจคต์ ซึ่งจะลงทุนในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐให้น้อยที่สุด หากมีการศึกษาออกแบบความเหมาะสม รวมถึงมีการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสำรวจเวนคืนที่ดิน แล้วเสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้เร็วสุดภายในปี 2564

แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สำหรับแผนปรับปรุงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ควบคู่รถไฟทางคู่นั้น ทางสนข.อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดหลายเรื่อง โดยเฉพาะการศึกษา กรณีนำเส้นทางมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ มาอยู่ในแนวเส้นทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการควบคุมการเข้าออกบริเวณแนวเส้นทางดังกล่าวไม่ให้เกิดจุดตัดทางแยก ที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาการทำเส้นทางทั้งมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ โดยเฉพาะการทำแนวเส้นทางแยกระหว่างกัน ทำให้เกิดปริมาณการจราจรหนาแน่น เพราะมีปริมาณการวิ่งของรถไฟเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันทั้งเส้นทางมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่จำเป็นต้องสร้างรั้วกั้นตลอดทั้งแนว เพราะเป็น เส้นทางที่ใช้ความเร็วสูงและทำให้เกิดอันตรายได้ ทั้งนี้จะมีการสร้างสะพานทางข้ามระหว่างเส้นทางทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกมากขึ้นสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางได้ รวมถึงลดการเกิดปัญหาสำหรับประชาชนที่อยู่ชุมชนละแวกนั้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาแบบูรณาการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปแผนฯภายในปีนี้

แหล่งข่าวจากสนข. กล่าวต่อว่า ปัจจุบันได้มีการหารือกับกรมทางหลวง (ทล.) เกี่ยวกับแผนดังกล่าว เบื้องต้นให้ ทล.ศึกษาการใช้กองทุนมอเตอร์เวย์ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแผนฯ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่ง สนข.จะช่วยบูรณาการแผน ดังกล่าวทั้งเส้นทางมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดแผนดำเนินงานระหว่างมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ (Motorway Rail Map: MR Map) ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “คมนาคม” ลุย 8 เส้นทาง หนุนมอเตอร์เวย์เชื่อมรถไฟทางคู่

• ขยายมอเตอร์เวย์ "อู่ตะเภา" เชื่อมเพื่อนบ้าน ดันไทยศูนย์กลางอาเซียน

• ทล.จ่อชงครม.ลุยผลประมูลโอแอนด์เอ็ม หนุนมอเตอร์เวย์ 2 สาย ก.ค. นี้

“เรามองว่าเส้นทางที่อยู่ระหว่างการศึกษา มีความเป็นไปได้หลายเส้นทาง ซึ่งจะต้องศึกษา MR Map ก่อน หลังจากนั้นจะเริ่มออกแบบรายละเอียดเส้นทางระหว่างมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ที่ดำเนินการควบคู่กัน ส่วนขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ในการออกแบบเส้นทางว่ามีเส้นทางใดบ้างที่จะเป็นเส้นทางนำร่อง รวมถึงการเวนคืนที่ดินต้องใช้ระยะเวลาศึกษาระยะนึง ขณะเดียวกันจะนำเสนอรายละเอียดต่อพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากทีมศึกษาได้ศึกษาความเป็นไปได้ โดยใช้งบประมาณที่ไม่กระทบต่องบประมาณของรัฐ ซึ่งอาจจะใช้งบจากกองทุนมอเตอร์เวย์หรือไม่ อาจจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกัน ส่วนเส้นทางมอเตอร์เวย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างจะไม่ได้รับผลกระทบต่อแผนฯ นี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่การดำเนินการก่อสร้างแล้ว”

หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,586 วันที่ 25-27  มิถุนายน พ.ศ. 2563