ขรก.ลุกฮือ ล้มโปรเจ็กต์ “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว”

27 มิ.ย. 2563 | 11:30 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มิ.ย. 2563 | 12:19 น.

​​​​​​​ศึกในเกาเหลา "กรมการข้าว" เดือด ขรก.รวมพลกดดันอธิบดีล้มโปรเจ็กต์จัดซื้อจัดจ้าง "พันธุ์ข้าว" ใช้งบกว่า 400 ล้านบาท ล่าช้าไปแล้ว แนะไปดำเนินการฤดูกาลผลิตปีถัดไป

ตามที่กรมการข้าวได้ดำเนินโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 เพื่อมีเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีนำไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย สำหรับนำไปใช้เพาะปลูกในฤดูนาปี 2563/64 ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 14,300,000 กิโลกรัม เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่กรมการข้าวกำหนด และเป็นไปตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไข เพิ่มเติม วงเงินกว่า 400 ล้านบาท

ขรก.ลุกฮือ ล้มโปรเจ็กต์ “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว”

แหล่งข่าวกรมการข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ทางข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญ ร่วม 20 ราย ยื่นหนังสือถึงนายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว  เรื่องขอให้พิจารณาทบทวนการดำเนินโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี2563/64 ลงวันที่ 24 มิ.ย.63 พิจารณาแล้วว่าเห็นโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดีและมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย ให้สามารถผลิตข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อช่วยรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวของประเทศในภาพรวมได้

แต่เนื่องจากกรอบเวลาในการจัดซื้อพัสดุของโครงการฯ ซึ่งได้แก่ เมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 13,000,000 กิโลกรัม และเมล็ดพันธุ์ข้าว กข6 จำนวน 1,300,000 กิโลกรัม เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการอาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากโดยปกติในช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงที่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายอาจเริ่มดำเนินการเพาะปลูกข้าว 2 พันธุ์ดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่แล้ว

ขรก.ลุกฮือ ล้มโปรเจ็กต์ “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว”

ประกอบกับการดำเนินการจัดซื้อพัสดุของโครงการดังกล่าว “กรมการข้าว” ยังอยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่ทำสัญญาซื้อขาย จึงเห็นว่าการใช้งบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการดังกล่าวอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีปัญหาที่อาจะส่งผลกระทบตามมาอีกมากมายจึงเสนอกรมการข้าวเพื่อพิจารณาดังนี้

1.เห็นควรทบทวนการดำเนินการโครงการดังกล่าว ไปดำเนินการในฤดูกาลผลิตปีถัดไป หรือหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ตรงกับความต้องการของเกษตรกร มีความเหมาะสมกับช่วงเวลาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ คุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศให้มากที่สุด

2.หากมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการต่อ กรมการข้าว ควรมีข้อมูลสนับสนุนเพื่อยืนยันได้อย่างชัดเจนว่ามาตรการการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวดังกล่าวใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ มาจากแปลงผลิตที่ตรวจสอบได้และได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์โครงการ เป็นความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย มีความคุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณ

“ฐานเศรษฐกิจ” จะติดตามความคืบหน้า ทางอธิบดีกรมการข้าว จะมีความคิดเห็นอย่างไรกับกรณีดังกล่าวนี้  ต้องติดตามกันต่อ