นายนิโรจน์ แสนไชย อายุ 70 ปี เจ้าของสวนแสนไชย ต. วังผาง อ.เวียงหนองล่อง จ. ลำพูน พื้นที่ 86 ไร่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” สถานการณ์ลำไยปีนี้ตกต่ำมาก ราคาหน้าสวน อยู่ที่ 6 บาท/กก. จ้างค่าแรงงานเก็บเกี่ยวไม่คุ้ม ปล่อยให้ร่วงคาต้น อีกทั้งการช่วยเหลือของรัฐบาลไม่ตรงจุด อุดหนุนให้พ่อค้า/ล้ง รับซื้อที่นำลำไยออกจากพื้นที่ถึงจะได้รับเงินชดเชย ส่วนเกษตรกรไม่ได้อะไรเลย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมอยากจะเสนอรัฐบาลให้ถอดโมเดลตัวอย่างประเทศจีน ซึ่งมีอยู่ปีหนึ่งที่มีปัญหากล้วยหอมล้นตลาดอยู่ รัฐบาลก็บังคับให้ข้าราชการซื้อ จำนวนเท่านั้นเท่านี้ หักเงินเดือนไปเลย เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาได้จบทันที
นายนิโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกษตรกรพบเจอ แรงงานไม่มี ค่าแรงแพง ถ้าราคาเป็นแบบนี้เก็บไไปก็ขาดทุน ก็ปล่อยร่วงไปตามยถากรรม เพราะ สินค้าเก็บก็ไม่คุ้ม
นายพลเชษฐ์ ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ ครั้งที่ 3/2563 (ข้อมูล ณ 2 มิถุนายน 2563) โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ พบว่า ลำไยของแหล่งผลิตหลัก 8 จังหวัดภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ น่าน) มีผลผลิตรวม จำนวน 635,394 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 620,379 ตัน (เพิ่มขึ้น 15,015 ตัน หรือร้อยละ 2.42) โดยคาดว่าผลผลิตในฤดูจะออกสู่ตลาดประมาณช่วงปลายเดือนมิถุนายน - กันยายน 2563 และจะออกมากที่สุดในเดือนสิงหาคม ประมาณ 225,127 ตัน
หากจำแนกลำไยในฤดูและ นอกฤดูพบว่า ผลผลิตลำไยในฤดู มีจำนวน 386,065 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 331,335 ตัน (เพิ่มขึ้น 54,730 ตัน หรือร้อยละ 16.52) เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย หนาวเย็นต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำไยมีการติดดอกออกผลมาก โดยราคาลำไยที่เกษตรกรขายได้ ณ วันที่ 26 มิถุนายน 63 ตลาดเชียงใหม่และลำพูน แบ่งเป็นตามเกรด ดังนี้ ลำไยสดช่อ เกรด AA กิโลกรัมละ 33 บาท , เกรด A กิโลกรัมละ 28 บาท , เกรด B กิโลกรัมละ 17 บาท เกรด C กิโลกรัมละ 8 บาท และเกรด AA+A กิโลกรัมละ 29 บาท ส่วนลำไยรูดร่วง เกรด AA กิโลกรัมละ 19 , เกรด A กิโลกรัมละ 14 บาท , เกรด B กิโลกรัมละ 6 บาท และเกรด C กิโลกรัมละ 1 บาท สำหรับลำไยนอกฤดู มีจำนวน 249,329 ตัน ลดลงจาก ปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 289,044 ตัน (ลดลง 39,715 ตัน หรือร้อยละ 13.74) เนื่องจากปีที่แล้วสภาพอากาศแห้งแล้ง ส่งผลให้การทำลำไยนอกฤดู ไม่ได้ผลเท่าที่ควรสถานการณ์ด้านตลาด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน และอินโดนีเซีย สำหรับปี 2563 การส่งออกยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ถึงแม้ว่าปัจจุบันตลาดจีนจะเริ่มเปิดการซื้อขายบ้างแล้วแต่ยังค่อนข้างซบเซาเนื่องจากติดปัญหาด้านการขนถ่ายสินค้า