ความล่าช้าการก่อสร้าง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)  บางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร โครงการร่วมลงทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) วงเงินลงทุน 84,600 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 77,970 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 6,630 ล้านบาท ต้องล่าช้าจากแผน เนื่องจาก  แนวเส้นทาง 10สัญญา ตัดผ่านเข้าเขตป่าสงวน  ส่งผลให้ต้องปรับแบบ และอาจต้องเสียงบประมาณเพิ่ม การเปิดใช้เส้นทางต้องเลื่อนจากปี2565เป็นปี2566

 

ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวจากกรมทางหลวง ยืนยันว่า  เส้นทางจำเป็นต้องผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ  10 สัญญา ช่วงบริเวณเขาเสียดอ้า เขาอ่างหิน เขานกยูง  จังหวัดนครราชสีมา แนวทางแก้ปัญหา กรมทางหลวงได้ทำหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติในบริเวณดังกล่าวจากกรมป่าไม้  เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.63 และอนุญาตให้เข้าพื้นที่ทำประโยชน์ในเขตป่าตามใบอนุญาตเล่มที่ 028 ฉบับที่ 48 เรียบร้อยแล้ว 9 สัญญา  อีกหนึ่งสัญญา ช่วงกม.84+948-กม.85+471 (ตอนที่ 21) ระยะทาง 523 เมตร  อยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้น  ยังไม่เข้าดำเนินการก่อสร้างทางในพื้นที่ แต่ได้ออกแบบเส้นทางผ่านเพื่อใช้ขนส่งวัสดุเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ที่ไม่ใช่ป่าสงวนแห่งชาติเท่านั้น

 

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดีฝ่ายดำเนินงาน กรมทางหลวง (ทล.)  ระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีการปรับแบบบางสัญญาประมาณ 9 ตอน คิดเป็น 10%  ของงานทั้งหมด คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน กันยายนนี้ ส่วนกรณีที่โครงการฯ จำเป็นต้องผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 10 สัญญา ยืนยันว่ากรมฯไม่ได้รุกพื้นที่ป่าสงวน แต่เป็นการปรับแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่ต้องดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากเดิมมีการออกแบบเป็นทางถนน แต่เมื่อเข้าสำรวจพื้นที่จริงกลับพบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวขวางทางน้ำ ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับแบบเป็นสะพานยกระดับแทน ทั้งนี้ได้มีการขออนุญาตกรมป่าไม้เพื่อใช้เขตทางดำเนินโครงการฯ แล้ว

 

 

“ได้เวนคืนที่ดินเรียบร้อยแล้ว  ยกเว้นบริเวณพื้นที่ลำตะคอง เนื่องจากเป็นสะพานยกระดับ ขณะเดียวกันการปรับแบบกว่า 10 สัญญาในครั้งนี้ เราไม่อยากให้มีปัญหา หากมีการก่อสร้างไปแล้วถ้าพื้นที่ไหนไม่เหมาะสมจำเป็นต้องแก้แบบ ถ้าเปิดใช้งานแล้วมาแก้แบบทีหลังจะเกิดปัญหาได้ เพราะปริมาณรถที่เดินทางบนถนนเพิ่มขึ้น”

 

 

 

 

สำหรับการลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางอัยการอยู่ระหว่างตอบกลับมาที่กรม ถึงการตรวจสอบแผนการส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนดำเนินการ รวมทั้งการเสนอราคาของเอกชน ซึ่งมีการพิจารณาใกล้เสร็จแล้ว หลังจากนั้นจะเชิญเอกชนเข้ามาหารือถึงการลงนามสัญญาโครงการฯ ภายในเดือนกันยายน นี้ ทั้งนี้กลุ่ม BGSR (บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS / บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF / บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ซึ่งเป็นผู้ได้รับงานต้องจัดหาแหล่งเงินกู้และจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่เป็นนิติบุคคลเพื่อลงนามสัญญากับทล. เบื้องต้นทางกลุ่ม BGSR ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทBGSR6 และบริษัทBGSR81 เพื่อเข้าลงนามสัญญาร่วมทุนงานโอแอนด์เอ็มมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา แล้ว

 

 

 

 

ขณะเดียวกันจะมีการปรับระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่บางส่วน เนื่องจากสัญญาก่อสร้างบางโครงการสามารถดำเนินการได้เร็ว ซึ่งทางกรมและเอกชนอยู่ระหว่างการพิจารณาระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ เพราะบางสัญญาด้านงานโยธายังไม่มีความชัดเจน เพราะมีการปรับแบบ แต่สัญญาส่วนใหญ่สามารถส่งมอบได้ทันตามแผนที่วางไว้ หลังจากมีการเซ็นสัญญาจะออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (NTP) ซึ่งกรมต้องพร้อมในการส่งมอบพื้นที่บางส่วนตามที่ตกลงไว้ เบื้องต้นเฟสแรกจะส่งมอบพื้นที่บริเวณด่านทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย ด่านบางปะอิน วังน้อย สระบุรี หินกอง แก่งคอย มวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว ขามทะเลสอ เพื่อให้เอกชนเข้าไปดำเนินการติดตั้งระบบโอแอนด์เอ็ม รวมทั้งพื้นที่ในส่วนของงานก่อสร้างสัญญาที่ดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่ที่เหลือ ต่อไป คาดว่าจะเร่งรัดเปิดให้บริการตามแผนภายในปี 2566

ข่าวหน้า7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับท่ี่3612 

อ่าวข่าวที่เกี่ยวข้อง

รุกป่าสงวน รื้อ 10สัญญา มอเตอร์เวย์  “บางปะอิน-โคราช”

รื้อใหม่! มอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช”  เส้นทางผ่านป่าสงวน

มอเตอร์เวย์โคราชเปิดวิ่งแน่ปี 65 ลุ้นพีพีพีชิงพัฒนาจุดพักรถ 8 แห่ง

บีทีเอส คว้า O&M 2มอเตอร์เวย์ยื่นขอรับค่าตอบแทนต่ำสุด