“ปตท.สผ.”เชื่อผลิตก๊าซแหล่ง “เอราวัณ” หลัง “เชฟรอน” หมดสัมปทานได้ตามเป้า

05 ต.ค. 2563 | 11:30 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2563 | 01:09 น.

“ปตท.สผ.”เชื่อผลิตก๊าซแหล่ง “เอราวัณ” หลัง “เชพรอน” หมดสัมปทานได้ตามเป้า 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ  เพื่อให้ได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบในการรื้อถอนสิ่งติดตั้งแหล่งปิโตรเลียม “เอราวัณ” หลังส่งมอบให้กับรัฐบาลภายหลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน 2565 และ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เข้ามาผลิตต่อในสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC)  

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวนี้อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย ทางกระทรวงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มากในเวลานี้ โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังาน ในฐานะประธานคณะกรรมการปิโตรเลียม ได้มีการตั้งคณะทำงานเจรจา หากกรณีที่ ปตท.สผ.ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เพื่อผลิตได้ต่อเนื่องหลัง เชฟรอนฯ หมดสิ้นสุดอายุสัมปทาน  

ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ก็มั่นใจว่าได้เตรียมเชื้อเพลิงไว้อย่างเพียงพอ ไม่ขาดแคลน ซึ่ง ปตท.มีสถานีรับ-ส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (RECEIVING TERMINAL LNG)  ไว้รองรับแล้ว ขอให้มั่นใจว่าจะมีก๊าซฯ เพียงพอรองรับการผลิตไฟฟ้าและอื่น ๆ ไม่ขาดแคลนแน่นอน 

“ปตท.สผ.”เชื่อผลิตก๊าซแหล่ง “เอราวัณ” หลัง “เชฟรอน” หมดสัมปทานได้ตามเป้า

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังเชื่อว่า ปตท.สผ.บริษัทในเครือ ปตท.จะยังเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณ เพื่อผลิตก๊าซฯ ได้ตามกำหนด เพราะทุกฝ่ายทั้งกระทรวงพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ปตท.สผ.และเชฟรอนฯ ก็อยู่ระหว่างการเจรจาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งในฐานะที่ ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก็จะบริหารจัดการไม่ให้เกิดความขาดแคลนแต่อย่างใด 

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ.กล่าวว่า บริษัทจะสามารถผลิตก๊าซฯ ในแหล่งเอราวัณ หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของเชฟรอนฯ ได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงพลังงานกำหนด คือ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยขณะนี้ท่าทีระหว่าง ปตท.สผ.และเชฟรอนฯ ได้มีการเจรจาหารือกันบ่อยครั้งขึ้น เบื้องต้นทาง ปตท.สผ.ได้เข้าพื้นที่ได้บางส่วน เพื่อเตรียมพร้อมในการทำการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ ) สำหรับการติดตั้งแท่นผลิตใหม่ระยะแรก 8 แท่น วงเงินลงทุนประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องเริ่มติดตั้งกลางปี 2564 ดังนั้น จึงขออนุญาตเชฟรอนเพื่อนำแท่นทั้ง 8 แท่นนี้เข้าไปติดตั้งในแหล่งเอราวัณ และคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงเข้าพื้นที่ (Site Access Agreement) ระยะที่ 2 กับ  เชฟรอนฯ ได้ในเร็ว ๆ นี้ 

“การที่เชฟรอนฯ เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการไม่ใช่เรื่องฟ้องร้อง แต่เป็นการหาคนกลางมาไกล่เกลี่ยในเรื่องที่กระทรวงพลังงานและเชฟรอนฯ มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เรื่อง หน้าที่ความรับผิดชอบในการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่จะส่งมอบให้กับรัฐบาลภายหลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลง ซึ่งมีทั้งหมด 142 แท่น” 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชฟรอนสุดทน ลุยฟ้องอนุญาโตฯ ไม่จ่าย 4 หมื่นล้าน รื้อแท่นปิโตรเลียมรัฐ

“เชฟรอน”แจงรื้อถอนสิ่งติดตั้งในแหล่ง “เอราวัณ” ตามสัญญาสัมปทาน

เชฟรอนฯ เดินหน้า จัดวาง ปะการังเทียมจากขาแท่น อีกบทพิสูจน์รื้อถอนปิโตรเลียม