สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต./ ทูตพาณิชย์) ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานอ้างอิงข้อมูลจากสื่อของจีนว่า ตั้งแต่หลังวันชาติจีน(วันที่ 1 ตุลาคม 2563) เป็นต้นมาราคาข้าวโพดในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยราคาข้าวโพดเฉลี่ยมากกว่า 2,600 หยวนต่อตัน (หรือ 12,090 บาทต่อตัน) ซึ่งสูงสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าตอนนี้ข้าวโพดในมณฑลซานตง เหอเป่ย มองโกเลียในและบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ออกสู่ตลาดแล้ว แต่ราคาข้าวโพดยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2560 แล้วพบว่าราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 หยวนต่อตัน (หรือ 4,650 บาทต่อตัน) หรืออัตราขยายตัวมากกว่าร้อยละ 62 ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเกษตรกร แต่เป็นข้อกังวลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง
ข้าวโพดเป็นธัญญาหารที่มีผลผลิตมากที่สุดของจีน การเปลี่ยนแปลงของราคาข้าวโพดมีผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาหารสัตว์ที่ผลิตจากข้าวโพด ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน(YoY) นอกจากนี้ราคาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ผลิตจากข้าวโพด เช่น แป้งข้าวโพด แอลกอฮอล์ เป็นต้น ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวโพดเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 22 YoY
ส่วนราคาราคาแป้งข้าวโพด เมื่อต้นปี 2563 ราคาเฉลี่ย 2,220 หยวนต่อตัน (หรือ 10,323 บาทต่อตัน) แต่ ณ เดือนตุลาคม 2563 ราคา 2,900 หยวน(หรือ 13,485 บาท)ต่อตัน ราคาได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ30
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในจีน (คิดเป็นร้อยละ 31.6 ของ พื้นที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมดของจีน) โดยมณฑลหลักที่ปลูกข้าวโพด เช่น เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง เป็นต้น เมื่อเร็ว ๆนี้ช่วงที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวข้าวโพดพื้นที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ประสบพายุไต้ฝุ่นติดต่อกันถึง 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นาย Zheng Fengtian รองคณบดีคณะการพัฒนาเกษตรและชนบท มหาวิทยาลัย เหรินหมินของจีน (Renmin University of China) มีความเห็นว่า ช่วงนี้ข้าวโพดใกล้สุกแล้ว การที่ต้นข้าวโพดประสบพายุไต้ฝุ่นล้ม จึงไม่ค่อยมีผลกระทบต่อปริมาณการผลิต แต่ต้องเร่งรีบเก็บเกี่ยวข้าวโพดให้เร็วที่สุดเพื่อลดความสูญเสีย จึงอาจกล่าวได้ว่า โดยรวมแล้ว สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวโพดสูงขึ้นเกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท ร่วมกับศูนย์ข้อมูลธัญญาหารและน้ำมันแห่งชาติคาดว่า ผลผลิตข้าวโพดในปี 2563/2564 ประมาณ 265 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 ล้านตัน) แต่คาดว่า ความต้องการใช้ข้าวโพดในปี 2563/2564 สูงถึง 293 ล้านตัน (สูงกว่าปีที่ผ่านมา 13 ล้านตัน) แสดงว่าปี 2564 จีนจะขาดแคลนข้าวโพดสูงถึง 28 ล้านตัน
นาย Li Guoxiang นักวิจัยจากศูนย์การวิจัยพัฒนาชนบทสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีการใช้ข้าวโพดในอุตสาหกรรมอื่นมากเกินไป เช่น แอลกอฮอล์เชื้อเพลิงเอทานอล แป้ง เป็นต้น จึงคาดว่าในปี 2564 รัฐบาลจีนอาจจะออกนโยบายควบคุมการใช้ข้าวโพดในอุตสาหกรรมดังกล่าว
สคต ณ เมืองเซี่ยเหมิน ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา ราคาข้าวโพดเฉลี่ยในตลาดจีนสูงกว่า 2,600 หยวนต่อตัน (หรือ 12,090 บาทต่อตัน) ซึ่งสูงสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท กับศูนย์ข้อมูลธัญญาหารและน้ำมันแห่งชาติคาดว่า ปี 2563/2564 จีนจะมีผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นเป็น 265 ตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจีนยังคงขาดแคลนข้าวโพดสูงถึง 28 ล้านตัน
อนึ่ง การที่มันสำปะหลังสามารถใช้ทดแทนข้าวโพดได้ในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้ข้าวโพดในจีนราคาสูงขึ้นอย่างมาก (ขณะนี้ราคามันเส้นในจีนที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประมาณ 2,080 หยวนต่อตันหรือ 9,672 บาทต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาข้าวโพด) จึงคาดว่าปี 2564 จีนจะต้องการนำเข้ามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (หากราคามันสำปะหลังที่นำเข้าต่ำกว่าราคาข้าวโพดอย่างมีนัยสำคัญ) เพื่อทดแทนการใช้ข้าวโพดที่มีราคาสูง จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกร/ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เช่น มันเส้น แป้งมัน มันอัดเม็ด เป็นต้น ในการส่งสินค้าดังกล่าวเข้าสู่ตลาดจีนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สอดคล้องกับนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย ที่เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้มีคำสั่งซื้อมันเส้นจากตลาดใหญ่สุดคือจีนเพื่อนำไปผลิตแอลกอฮอล์ทดแทนข้าวโพดในจีนที่มีราคาสูงขึ้นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ลานมัน(ผู้ประกอบการมันเส้น) ไม่มีสินค้าตอบสนองความต้องการ จากผลผลิตหัวมันในประเทศมีน้อยกระทบจากภัยแล้งและโรคใบด่างในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาเป็นฤดูฝนลานมันเปิดดำเนินการน้อย แต่เวลานี้เป็นปลายฝนแล้วคาดโรงงานมันเส้นจะกลับมาดำเนินการตามปกติตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ดีคาดการณ์ส่งออกมันเส้นฤดูการผลิต 2562/2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) จะทำได้ที่ประมาณ 3 ล้านตัน จากปี 256//2562 ส่งออกได้ 5 ล้านตัน และแป้งมันที่ 4 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562/2563
ข้อมูลจากสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคามันเส้นส่งออก (FOB) เฉลี่ยที่ 255-260 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นจากวันเดียวกันของปีก่อน( 30 ต.ค.2562) ที่เฉลี่ยที่ 225-230 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และราคามันสำปะหลัง(เชื้อแป้ง 25%) ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ขายให้กับโรงงานแป้งมัน ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 เฉลี่ยที่ต่ำสุด-สูงสุดที่ 1.90-2.45 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) เทียบกับวันที่ 30 ตุลาคม 2562 เฉลี่ยต่ำสุด-สูงสุดที่ 2.00-2.60 บาทต่อกก.
ขณะจากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ช่วง 9 เดือนแรกปี 2563 ไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทุกประเภทมูลค่ารวม 62,514 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้ส่งออกไปตลาดจีน(สัดส่วน 59%)มูลค่า 36,712 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกมันเส้น 17,147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% โดยส่งออกไปตลาดจีนสัดส่วน 99.9% มูลค่า 17,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4%)
ส่วนผลการสำรวจผลผลิตมันสำปะหลังปี 2563/2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) คาดการณ์จะมีผลผลิตประมาณ 28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2562/2563 (ต.ค.52-ก.ย.63)ที่มีผลผลิตประมาณ 25 ล้านตัน จากผลกระทบภัยแล้ง และโรคใบด่าง ซึ่งจากราคาส่งออกมันเส้น และความต้องการที่เพิ่มจากตลาดจีนที่นำไปผลิตแอลกอฮอล์แทนข้าวโพดที่มีราคาสูง คาดปี 2564 จะเป็นปีที่ดีของเกษตรกรและอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย