นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า กรอ. ได้ดำเนินงานร่วมกับธนาคารโลกและภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมศุลกากร ธนาคารออมสิน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และภาคเอกชน อยู่ระหว่างดำเนินโครงการลดและเลิกใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ สาร HCFCs ระยะที่ 2 ซึ่งประเทศไทยได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากกองทุนพหุภาคีภายใต้พิธีสารมอนทรีออล จำนวน 5,083,929 เหรียญสหรัฐ เพื่อดำเนินการลดและเลิกใช้สาร HCFCs ในช่วงปี พ.ศ. 2563 - 2566
ซึ่งเป็นมาตรการมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินและเทคนิควิชาการแก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมผลิตโฟมแบบฉีดพ่น (Spray Foam) รวมถึงภาคอุตสาหกรรมผลิตตู้เย็น และตู้แช่เชิงพาณิชย์ ในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตไปใช้สารทดแทน ที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศและชั้นบรรยากาศโอโซน นอกจากนี้ โครงการฯ จะมีการเสริมสร้างศักยภาพ ด้านการตรวจวิเคราะห์ชนิดสารทำความเย็นให้แก่กรมศุลกากร รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศที่ใช้สาร HFC-32 เป็นสารทำความเย็น ในสังกัด
ทั้งนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยมีเป้าหมายในการจัดอบรมให้แก่ช่างซ่อมบำรุง จำนวน 5,500 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่า โครงการฯ นอกจากจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการและยกระดับกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว จะเป็นประโยชน์ ในการพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
“ภาคอุตสาหกรรมไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องสิ่งแวดล้อมและชั้นบรรยากาศโอโซน โดยมีการส่งเสริมการใช้สารเคมีทางอุตสาหกรรมที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สาร HCFCs เป็นสารที่ถูกควบคุมภายใต้พิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยการลดและเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และมีพันธกรณีในการลดและเลิกใช้สารดังกล่าว”
โดยกำหนดเป้าหมายให้เริ่มควบคุมปริมาณการใช้ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งมีค่าฐานที่ 927 โอดีพีตัน และให้ลดปริมาณการใช้ลงตามลำดับ 10% ในปี พ.ศ. 2558, ร้อยละ 35 ในปีปัจจุบัน พ.ศ. 2563, 67.5% ในปี พ.ศ. 2568 และควบคุมปริมาณการใช้สาร HCFCs ให้เท่ากับศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2583
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กรอ. ได้ร่วมกับธนาคารโลก ซึ่งเป็นหน่วยดำเนินงาน (Implementing Agency: IA) จัดทำโครงการลดและเลิกใช้สาร HCFCs ของประเทศไทย ระยะที่ 1 ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินแบบให้เปล่าจากกองทุนพหุภาคีภายใต้พิธีสารมอนทรีออล จำนวน 23,052,037 เหรียญสหรัฐ เพื่อดำเนินโครงการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 - 2561 โดยเน้นให้ความช่วยเหลือและลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการในภาคการผลิตโฟมและเครื่องปรับอากาศ ในการปรับเปลี่ยนไปใช้สารทดแทนใหม่ที่ไม่ทำลาย ชั้นบรรยากาศโอโซนและมีค่าศักยภาพที่ทำให้โลกร้อนต่ำ
สำหรับปัจจุบันโครงการฯ ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการเป็นผลสำเร็จ และสามารถลดปริมาณการใช้สาร HCFCs ได้ร้อยละ 61.9 สูงกว่าเป้าหมายซึ่งกำหนดที่ร้อยละ 15 สำหรับปี พ.ศ. 2561 โดยมีการนำเข้าเพียง 353.16 โอดีพีตัน เทียบกับปริมาณโควตาการนำเข้าซึ่งกำหนดไว้ที่ 788 โอดีพีตัน