นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ บนพื้นที่กว่า 1,900 ไร่ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 4.129 พัน ล้านบาท เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ภายใต้มาตรการส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ “อีอีซี” (EEC) ตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ในพื้นที่อำเภอหนองใหญ่และอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พื้นที่ 1,987.61 ไร่ แบ่งการจัดสรรพื้นที่ออกเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 1,501 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภคและแนวกันชนประมาณ 486 ไร่
“โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนา และให้บริการระบบสาธารณูปโภค จัดเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 61 และเป็นนิคมอุตสาหกรรมล่าสุดที่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ อีอีซี โดยจังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในเขตพื้นที่อีอีซีที่รองรับการลงทุน มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมตามโครงการ อีอีซี ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี ภายหลังจากที่ได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรมแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2567”
สำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่นั้น รองรับนักลงทุนที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิตเป็นหลัก โดยโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี มีเครือข่ายเส้นทางคมนาคมที่สะดวก อยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่ถึง 100 กิโลเมตร และห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 137 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาตร์ที่สำคัญสามารถเชื่อมโยงนิคมฯในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองได้
นางสาวสมจิณณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การพัฒนาโครงการได้มีการออกแบบภายใต้แนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Industrial) โดยจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่แนวกันชนเชิงนิเวศ (Eco-Belt) รอบพื้นที่โครงการฯ และนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วมาปรับปรุงคุณภาพและนำไปใช้ประโยชน์ภายในโครงการ (Recycle) เพื่อลดอัตราการระบายน้ำทิ้งออกนอกพื้นที่ รวมทั้งได้นำแนวคิดออกแบบอาคารส่วนกลางแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design)
และออกแบบเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน (Green Building) เพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก และใช้พลังงานทดแทน (Renewable Energy) เป็นทางเลือกเสริมพลังงานหลัก ซึ่งช่วยลดปัญหามลพิษส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของชุมชนโดยรอบสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน สำหรับแนวทางการดำเนินงานหลังจากนี้ บริษัทฯจะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ก่อน แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการจัดสรรที่ดินและขออนุมัติผังแม่บทต่อไป
“หลังจากที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่มีการลงทุนเต็มพื้นที่โครงการแล้ว คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนจากโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างโรงงานต่างๆในนิคมฯ เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15,014 อัตรา ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร อุตสาหกรรมเบาและอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องประดับ อุตสาหกรรมบริการ เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ การวิจัยและพัฒนา และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมใน อีอีซี”