ปลุกระดมแบน “ยี่ปั๊วยาง” ขี้โกง

15 ม.ค. 2564 | 14:45 น.

ยางใต้เดือด “มนัส” ปลุกระดมแบน “ยี่ปั๊วยาง” ขี้โกง เอาเปรียบเกษตรกรทุกรูปแบบ ขณะ กยท.เผยราคาน้ำมันดิบ ดึงราคาพุ่ง พ่วงซัพพลายน้อย

มนัส บุญพัฒน์

 

 

นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย(ส.ค.ย.) เผยว่า ในขณะนี้กลุ่มผู้ทำยางรมควันในภาคใต้โดนเอาเปรียบหนักมาก บางรายขนยางแผ่นถึงหน้าร้านตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า กลับบอกว่าคิวเต็ม บางทีก็จ่ายเงินช้า ตามอำเภอใจ ไร้กฎเกณฑ์

 

ส่วนน้ำหนักในการช่างรถก็ไม่เคยแสดงให้ลูกค้ารับรู้เป็นเอกสาร หรือด้วยวาจา วันไหนที่น้ำหนักขาดเรียกร้องอุทธรณ์ใดๆก็ไม่ได้ ยิ่งหนักหากทราบว่าราคายางล่วงหน้า ถูกกว่าราคายางประมูลในตลาด จะรีบทวงถามลูกค้าทันที แต่หากเมื่อไรที่ยางล่วงแพงกว่าราคาตลาด มักอ้างว่าคิวเต็ม

 

นายมนัส กล่าวว่า หลักฐานการซื้อขายเขียนใส่เศษกระดาษ ซึ่งไม่ได้เป็นเอกสารที่ควรเป็นใบเสร็จที่สากลเขาทำ ผมจึงรณรงค์กับชาวสวนยางภาคใต้ว่าไม่ควรทำการค้ากับพ่อค้ายี่ปั้วสีเทาๆพวกนี้มีแต่เอาเปรียบโดยสารพัดวิธี

 

 

สถานการณ์ราคายางพารา ณ วันที่ 15 มกราคม 2564

 

อนึ่ง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางพารา  ณ วันที่ 15 มกราคม 2564 ราคากลางเปิดตลาดยางแผ่นดิบอยู่ที่ 57.20 บาท/กก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 59.50 บาท/กก. ส่วนราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลางยางพาราฯ ราคายางแผ่นดิบอยู่ที่ 57.24 บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ 61.43 บาท/กก. ราคายางในภาพรวมปรับตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมถึงผลผลิตยางพาราลดลง

 

เนื่องจากมีฝนตกทางภาคใต้ของประเทศไทยประกอบกับธนาคารกลางของประเทศจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดจ้านวนมาก เพื่อกระตุ้นตลาดท้าให้เกิดสภาพคล่อง แต่อย่างไรก็ตามจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท้าให้เศรษฐกิจถดถอย และการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า รวมถึงการส่งออกที่ตึงตัวจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยกดดันราคายางในระยะนี้