“สวีเดน” เก็บภาษีแรงงานต่างชาติ เพิ่ม 25%

20 มี.ค. 2564 | 05:23 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2564 | 12:23 น.

ก.แรงงาน แจ้งคนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ หลังสวีเดน เก็บภาษีทำงานระยะสั้นแรงงานต่างชาติ เพิ่ม 25%

"สวีเดน" เปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติ Special income tax (SINK tax) สำหรับแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้าไปทำงานชั่วคราวในสวีเดน ระยะเวลาไม่เกิน 183 วันต่อปี ต้องชำระภาษีร้อยละ 25 ของรายได้

 

สุชาติ ชมกลิ่น

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า รัฐสภาสวีเดนมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติ Special income tax (SINK tax) ส่งผลให้คนงานที่จะเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน ฤดูกาลปี 2021 โดยผ่านการจ้างงานจากบริษัทนายจ้าง ต้องชำระภาษีประมาณร้อยละ 25 ของรายได้ตามกฎหมาย หากมีระยะเวลาทำงานไม่เกิน 183 วันต่อปี  ซึ่งจากประมาณการรายได้ขั้นต่ำคงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายและหักภาษี สรุปได้ว่าคนงานจะมีรายได้คงเหลือประมาณ 13,237.50 – 31,156.50 บาท

 

“นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาลเป็นอย่างมาก และได้กำชับให้กระทรวงแรงงานเตรียมการรองรับต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติของสวีเดน เนื่องจากที่ผ่านมาแรงงานกลุ่มดังกล่าว ถือว่าเป็นผู้ที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทย โดยปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าสวีเดน จำนวน 3,040 คน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ถึง 475,760,000 บาท “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

 

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน ขานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น เร่งเตรียมการรองรับต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติของสวีเดน เบื้องต้นได้สั่งการเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเก็บภาษีแรงงานต่างชาติของสวีเดน

 

พร้อมมีหนังสือถึงบริษัทนายจ้างที่จะพาลูกจ้างไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนเพื่อแจ้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลง และกำหนดให้บริษัทนายจ้างแจ้งข้อมูลดังกล่าว แก่ลูกจ้างอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของคนงานจะลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา โดยกรมการจัดหางานได้คำนวณรายได้ขั้นต่ำสำหรับฤดูกาลปี 2021 ว่าแรงงานไทยจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 23,500 โครนาสวีเดน ต่อเดือน คิดเป็นเงินไทยจำนวน 85,070 บาท หักค่าใช้จ่ายในสวีเดน ได้แก่ ค่าที่พัก ค่าอาหารวันละ 3 มื้อ และค่าเช่ารถ ประมาณ 195 – 250 โครนาสวีเดนต่อวัน รวมทั้งค่าน้ำมันรถ เฉลี่ย 500 โครนาสวีเดนต่อสัปดาห์ต่อคน ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายและหักภาษีร้อยละ 25 แล้ว หากมีระยะเวลาทำงาน 3 เดือน สรุปได้ว่าคนงานจะมีรายได้คงเหลือประมาณ 13,237.50 – 31,156.50 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 8 มีนาคม 2564: 1 โครนาสวีเดน เท่ากับ 3.62 บาท)

 

“อย่างไรก็ดี นอกจากประเทศสวีเดนแล้ว กรมการจัดหางานยังมีการจัดส่งแรงงานไทยเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ด้วย หลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมผลไม้ป่าของฟินแลนด์ได้พึ่งพาแรงงานต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะแรงงานไทย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของแรงงานต่างชาติทั้งหมด สำหรับปี 2564 บริษัทรับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์ยังคงต้องการคนงานไทยเป็นจำนวนมาก”

 

โดยลงทะเบียนแสดงความต้องการแรงงานไทยกับกระทรวงการจ้างงานฟินแลนด์ แล้วจำนวน 8,703 คน และขณะนี้สำนักงานภาษีฟินแลนด์ (Finnish Tax Authority) ให้ข้อมูลว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบบหรือกฎหมายการจัดเก็บภาษีต่อคนงานเก็บผลไม้ป่าหรือคนงานที่เป็นฝ่ายสนับสนุนในแคมป์ผลไม้ป่าในฤดูกาลปี 2564

 

แต่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยสถานะทางกฎหมายของชาวต่างชาติที่มาเก็บเกี่ยวผลผลิตทางธรรมชาติภายใต้หลัก Freedom to Roam ซึ่งหากมีพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้ทราบต่อไป  ทั้งนี้กรมการจัดหางานจะพิจารณาโควตาในปี 2564 อย่างเหมาะสม เพื่อมิให้เกิดปัญหาการแย่งงานเก็บผลไม้ป่า คนหางานไทยมีโอกาสในการมีงานทำ และมีรายได้จากการเก็บผลไม้ป่าในอัตราที่พึงพอใจ รวมทั้งการดูแลแรงงานไทยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

 

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทรศัพท์ 0 2245 6708 ในวันและเวลาราชการ หรือติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas  หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694