‘จุรินทร์’ สั่งช่วยเหลือผู้ส่งออก เร่งปรับแผนส่งสินค้าไปยุโรป-แอฟริกาเหนือ

27 มี.ค. 2564 | 06:34 น.

“จุรินทร์” สั่ง พาณิชย์ ติดตามประสานช่วยเหลือผู้ส่งออก เหตุเรือขวางคลองสุเอซ แนะปรับแผนรองรับส่งสินค้าไปยุโรป-แอฟริกาเหนือ

   นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้ติดตามการกู้เรือสินค้ากรณีเรือ Ever-Given ติดขวางคลองสุเอช เป็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ เสียหลักเกยตื้น ระหว่างนี้กำลังมีความพยายามเร่งกู้เรือเพื่อให้การเดินเรือสามารถเดินหน้าไปได้ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานงานกับผู้ส่งออก สายการเดินเรือ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศแล้วว่า หากการกู้เรือยืดเยื้อ จะแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือใหม่ในการขนส่งสินค้า จากเดิมที่ผ่านคลองสุเอซไปยุโรป และภูมิภาคอื่น จะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านแหลมกูดโฮป ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ก่อนอ้อมไปยุโรป จะต้องใช้เวลามากขึ้นประมาณ 10 วันและค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน จะประสานงานกับผู้นำเข้าและส่งออก ขอขยายเวลาการส่งสินค้า เพราะติดปัญหาเรือขวางสุเอซโดยให้สำนักงานส่งเสริมการค้าประจำประเทศอียิปต์เป็นตัวกลางในการประสานงานเนื่องจากเป็นห่วงเรื่องค่าขนส่งที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานพาณิชย์ต่างประเทศ มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและประสานงาน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ จะหารือแนวทางช่วยเหลือภาคเอกชนต่อไป 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

     รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุด้วยว่าเรื่อง กรณี เรือ Ever-Given ติดขวางคลองสุเอซ ปัญหาที่เห็นได้ชัดขณะนี้คือ ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้น เนื่องจากคลองสุเอซเป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนราว 5-10% การขนส่งทั้งโลก รวมทั้งปริมาณการค้าราว 12% ของโลกที่ผ่านคลองสุเอซ 

 

    กระทรวงพาณิชย์ ประเมินผลในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งออกของไทยไปภูมิภาคแอฟริกาตอนเหนือโดยเฉพาะอียิปต์ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับต้นของไทยและเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง เบื้องต้นน่าจะส่งผลกระทบกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการส่งมอบในเดือน มี.ค. ที่จะเกิดการติดขัดและล่าช้าออกไป โดยสินค้าสำคัญ ได้แก่ สินค้าอาหารแปรรูปปลาทูนากระป๋อง ชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวประมาณ 30% ของการส่งออกของไทยมาอียิปต์ 

     อย่างไรก็ดี สำหรับการส่งออกในเดือน เม.ย. ของไทยที่จะส่งไปอียิปต์ น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมากนัก เนื่องจากผู้ซื้อชะลอคำสั่งซื้อออกไปเพื่อรอดูผลการเริ่มใช้งานระบบการแจ้งข้อมูลการนำเข้าสินค้าล่วงหน้า (Advance Cargo Information System: ACI) ที่รัฐบาลอียิปต์ประกาศเริ่มใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 64 ที่จะถึงนี้เพราะหลายฝ่ายยังไม่แน่ใจเกี่ยวแนวทางการปฏิบัติและวิธีในการส่งเอกสารซึ่งจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ส่งออก/ชิปปิ้งไทยที่จะต้องส่งเอกสารผ่านระบบ blockchain แทนการส่งผ่าน courier service ในรูปแบบเดิมๆ นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสินค้าไทยที่ขนส่งผ่านคลองสุเอซเพื่อส่งต่อไปภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยเช่นเดียวกัน ดังนั้นข้อเสนอแนะเพื่อรองรับการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายจาก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้คอยติดตาม ประสานงานและแก้ไขปัญหาพร้อมรายงานความคืบหน้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :