นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือระดับรัฐมนตรีระหว่างรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ Mr. Edward Yau รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง ผ่านระบบออนไลน์ Video Conference ว่า ประเด็นที่หารือมี 3 ประเด็น คือ1.ทางฮ่องกงได้เชิญไปกล่าวปาฐกถาในงานการประชุมสุดยอด Belt and Road Summit ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด “Driving Growth Through Fostering regional and International Trade” ระหว่างวันที่ 13 - 14 กันยายน 2564 ณ เมืองฮ่องกง โดยการประชุมดังกล่าวจะมีผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล ผู้นำภาคเอกชนจากทั่วโลกเข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และมองหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน
2.รัฐมนตรีพาณิชย์ฮ่องกงแจ้งว่าสนใจที่จะนำฮ่องกงเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิก RCEP ร่วมกับ 15 ประเทศที่มีไทยเป็นหนึ่งในนั้น 3.ฮ่องกงสนใจที่จะทำ FTA กับประเทศไทย ขณะนี้ FTA ไทยฮ่องกงอยู่ระหว่างการศึกษา กระทรวงพาณิชย์ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการศึกษา คาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
สำหรับประเด็นที่ฝ่ายไทยนำมาหารือกับฮ่องกงคือไทยยืนยันที่จะเป็นประเทศที่ส่งออกอาหารไปให้กับชาวฮ่องกง และยินดีที่จะเป็นแหล่งผลิตอาหารป้อนให้กับชาวฮ่องกงต่อไปเพราะถือว่าตลาดฮ่องกงเป็นตลาดที่มีการค้ากับประเทศไทยมายาวนานและเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลน
นอกจากนี้ยังมีการหารือในประเด็นธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจอนิเมชั่นและภาพยนตร์ ปัจจุบันไทยมีพัฒนาการทางด้านการผลิตอนิเมชั่นและการตัดต่อภาพยนตร์ที่อยู่ในศักยภาพขั้นสูง และสามารถร่วมมือกับฮ่องกงผลิตอนิเมชั่นและผลิตภาพยนตร์เพื่อจำหน่ายยังต่างประเทศต่อไปได้ จะดำเนินการร่วมกันในรูปแบบทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันกรณีพิเศษก็ได้ ซึ่งรัฐมนตรีฮ่องกงสนับสนุนนักลงทุนอนิเมชั่นและภาพยนตร์สามารถร่วมมือกับไทยได้เป็นอย่างดี ในอนาคตถ้ามีโอกาสเดินมาในประเทศไทยอยากจะไปดูพัฒนาการของธุรกิจอนิเมชั่นและดิจิตอลคอนเทนท์ของประเทศไทย
ด้านการท่องเที่ยว ไทยพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง เพราะฮ่องกงถือเป็นตลาดท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งของประเทศไทย และยินดีต้อนรับผู้สูงอายุที่มาจะมาใช้ธุรกิจ Wellness หรือธุรกิจบริการด้านสุขภาพในประเทศไทยประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอย่างสูงหลังหมดสถานการณ์โควิดไปแล้วและมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า ไทยกับฮ่องกงอาจสามารถร่วมมือกันทำการท่องเที่ยวในรูปแบบ Travel Bubble เช่นเดียวกับที่ฮ่องกงกำลังเจรจากับสิงคโปร์ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อยู่ในขณะนี้ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ฮ่องกงถือว่าเป็นคู่ค้าที่สำคัญลำดับที่ 8 ของประเทศไทย มีมูลค่าการค้ารวม 413,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่ฮ่องกงนำเข้าจากประเทศไทยที่สำคัญและขยายตัวในอัตราสูงประกอบด้วย 1.เนื้อหมูหรือเนื้อสุกรแช่แข็ง ปีที่แล้วบวกถึง 345%มะม่วงสดบวกถึง 400% สบู่และเครื่องสำอางบวกถึง 216% เป็นต้น