เดอะมอลล์ ทุ่มกว่า 70ล. จัดที่ฉีดวัคซีนโควิด

10 พ.ค. 2564 | 10:04 น.

เดอะมอลล์ กรุ๊ป จับมือ กรุงเทพมหานคร-นนทบุรี-นครราชสีมา เดินหน้าเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19   ยก เดอะมอลล์ บางกะปิ  โมเดลต้นแบบ

นางสาวกฤษณา อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เล็งเห็นความสำคัญของการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เกิด ภูมิคุ้มกันหมู่” จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนันสนุนการดำเนินงานของภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19และเตรียมความพร้อมในการกระจายวัคซีนให้มีประสิทธิภาพและทั่วถึงมากที่สุด โดยร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดนครราชสีมา  เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการกระจายการฉีดวัคซีน  รวมถึงการวางระบบการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็ว  เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง  

เดอะมอลล์ ทุ่มกว่า 70ล.  จัดที่ฉีดวัคซีนโควิด

 

โดยสนับสนุนงบกว่า 70 ล้านบาท ในการสนับสนุนพื้นที่สำหรับฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล  ที่  4  สาขา ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ,  เดอะมอลล์ บางแค ที่ได้รับการคัดเลือกจาก สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร,  เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน  ได้รับการคัดเลือกจาก สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเดอะมอลล์ โคราช  ได้รับการคัดเลือกจาก สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา  โดยทั้ง 4  สาขา ถือเป็นแลนด์มาร์คในเขตกรุงเทพตะวันออก, เขตกรุงธนใต้, จังหวัดนนทบุรี  และจังหวัดนครราชสีมา  

สำหรับการบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน  ในพื้นที่ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะประเดิม
ฉีดสาขาแรก  ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ  ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ,  เดอะมอลล์ บางแค วันที่ 2 1 พฤษภาคม 2564  สำหรับ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และ เดอะมอลล์ โคราช พร้อมให้บริการวัคซีนกับประชาชน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564  เป็นต้นไป  โดยจุดให้บริการของทั้ง 4 สาขา อยู่ที่บริเวณ เอ็มซีซี ฮอลล์

นอกจากนี้ยังได้จัดหาเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร เพื่อช่วยดูแลความเรียบร้อยระหว่างดำเนินงาน  พร้อมสนับสนุนชุดอาหาร-เครื่องดื่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดการดำเนินงานที่เดอะมอลล์ บางแค และบางกะปิ  อาทิ การจัดเตรียมสถานที่ทั้งหมด, จัดเตรียมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมด, จัดเตรียม ระบบ Wifi, จัดเตรียมอุปกรณ์สำนักงาน, อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการสุขอนามัย เป็นต้น

นอกเหนือจากมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุดครอบคลุมทุกมิติ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข 5 มาตราการหลัก ที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ โดย 5 มาตการหลัก ประกอบด้วย

1.มาตรการคัดกรองเข้มงวด อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้า ผู้เข้าใช้บริการทุกคน รวมถึงพนักงานร้านค้า พนักงานคู่ค้า พนักงานรับ-ส่งสินค้า DELIVERY และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า พร้อมติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทั่วทั้งศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

 2.มาตรการลดความแออัด อาทิ ลดความแออัด ด้วยการจำกัดจำนวนคน ในพื้นที่ 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร, เคร่งครัดในมาตร Social Distancing , กำหนดทางเข้า-ออก อาคารศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ผ่านจุดคัดกรอง และลดการเดินสวนกันที่บริเวณทางเข้า – ออก ฯลฯ

 3.มาตรการสร้างสังคมไร้สัมผัส อาทิ จัดพนักงานบริการกดลิฟท์ทุกตัวให้กับลูกค้า และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ภายในลิฟท์ ทุก 10 นาที, จัดพนักงานบริการเปิด – ปิดประตูศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า, ส่งเสริมให้ลูกค้าใช้วิธีการชำระเงินแบบ TOUCHLESS PAYMENT ฯลฯ

 4.มาตรการสุขอนามัยเชิงรุก อาทิ ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เช่น ปุ่มกดภายในลิฟท์ ราวบันไดเลื่อน ก๊อกน้ำ ลูกบิด กลอนประตู ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที, ทำความสะอาดพื้นศูนย์การค้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที พร้อมติดตั้งเครื่องฉีดพ่นอัตโนมัติเพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อในห้องน้ำ ทุก 5 นาที, ทำความสะอาดใหญ่ ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ พื้นที่ขายและพื้นที่สำนักงานทุกสัปดาห์ ฯลฯ

5.มาตรการเฝ้าระวังติดตาม อาทิ หน่วยงานที่ดูแลพนักงาน พนักงานร้านค้า พนักงานคู่ค้าต้องจัดทำประวัติข้อมูลสุขภาพของพนักงานทุกคนในสังกัด รวมถึงกรณีพนักงานที่ต้องถูกกักตัวก่อนเข้าปฏิบัติงาน, ลูกค้า ผู้ใช้บริการ ผู้เช่า และพนักงาน ต้องได้รับการลงทะเบียนผ่าน APPLICATION ก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เพื่อสามารถติดตามในกรณีที่มีความจำเป็น ฯลฯ