นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการ จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ตั้งแต่วันที่ 7-20 มิ.ย.2564 ว่า มีผู้ประกอบการร้านอาหารมาติดต่อขอสินเชื่อรวม 11,185 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 2,440 ล้านบาท แยกเป็น 1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 6,541 ราย วงเงินรวม 625.84 ล้านบาท 2.ธนาคารออมสิน มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อ 4,153 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 1,276.37 ล้านบาท 3.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อ 271 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 242.66 ล้านบาท 4.ธนาคารกรุงไทย มีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 220 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 295.50 ล้านบาท ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ยังไม่มีตัวเลข เพราะต้องรอการอนุมัติสินเชื่อจาก 4 ธนาคารนี้เสียก่อน จึงเข้ามาช่วยค้ำประกันต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับสถาบันการเงิน และร้านอาหาร มีความเห็นว่าควรขยายเวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาขอสินเชื่อเพื่อช่วยต่อลมหายใจให้กับร้านอาหาร โดยจะขยายเวลาออกไปทั่วประเทศจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564
สำหรับโครงการ “จับคู่กู้เงิน” เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับ 5 สถาบันการเงิน จัดแคมเปญเฉพาะกิจ เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือดอกเบี้ยผ่อนปรน ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีอยู่ในระบบทั้งประเทศจำนวน 118,967 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 15,967 ราย คิดเป็น 13.43% และบุคคลธรรมดา 103,000 ราย คิดเป็น 86.57%
โดยร้านอาหารที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถประสานงานผ่าน 7 สมาคม ได้แก่ 1.สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด 2.สมาคมภัตตาคารไทย 3.สมาคมร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวรายย่อย 4.สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร 5.สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร 6.สมาคมเชียงใหม่ภัตตาคารร้านอาหารและบันเทิง และ 7.สมาคมร้านอาหารไทยจังหวัดกระบี่ รวมทั้งกลุ่มร้านอาหารอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง