เมื่อเวลาประมาณ 14.35 น. ที่ผ่านมาสถานการณ์ชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาเริ่มมีความตึงเครียด เนื่องจากมีกลุ่มการ์ดอาสาม็อบคณะราษฎรจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวหน้าได้พยายามข้ามแนวกั้น และรื้อลวดหนามและแท่นปูนที่ตั้งขวางออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 17 พ.ย.63
จับตา 3 ม็อบล้อมรัฐสภา ชุมนุมเกาะติดประชุมแก้ไขรธน.
รับมือ3ม็อบ ตำรวจปิดการจราจรหน้ารัฐสภาแล้ว 100%
เช็กด่วน! เส้นทางเลี่ยง 3 ม็อบนัดชุมนุมล้อมรัฐสภาเช้าวันนี้
ประมวลภาพ วินาทีฉีดน้ำใส่ "ม็อบคณะราษฎร" หลังพยายามรื้อแนวกั้นหน้ารัฐสภา
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้รถน้ำแรงดันสูงฉีดใส่การ์ดผู้ชุมนุม พร้อมประกาศเตือนไม่ให้เข้าใกล้รัฐสภาในรัศมี 50 เมตร แต่แนวร่วมยังคงเดินหน้าประชิดแนวกั้น เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำผสมสีฉีดใส่การ์ดอาสา ซึ่งมีรายงานว่ามวลชนส่วนหนึ่งได้พากันใช้ถุงสี พลุควัน ขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น
จากนั้นเวลา 15.10 น. ที่แยกเกียกกายเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และห้ามเข้าใกล้แนวกั้น ไม่เช่นนั้นจะฉีดน้ำ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำที่มีสีม่วงใส่ผู้ชุมนุม หลังผู้ชุมนุมพยายามนำเครื่องกีดขวางตำรวจออก
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงสถานการณ์ที่หน้ารัฐสภาถึงขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่เตือนผู้ชุมนุมแล้ว 3-4 ครั้ง เพราะมีความพยายามจะรื้อแนวกั้น เมื่อเตือนแล้วไม่ฟังครั้งแรกจึงฉีดน้ำจากน้ำเปล่าไม่มีการผสมแก็สน้ำตา แต่ผู้ชุมนุมยังไม่หยุด
จากนั้นจึงฉีดน้ำตามยุทธวิธี ที่มีการผสมแก๊สน้ำตา ยืนยันว่าว่าการปฏิบัติว่าไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่เป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ
จากนั้นเวลา 15.50 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้หารือต่อประธานสภาในขณะประชุมรัฐสภา ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่อย่าใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เนื่องจากประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการเรียกร้องต่อรัฐสภา
และต่อจากนั้นเวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำใส่มวลชนกลุ่มคณะราษฎร ที่พยายามเข้าใกล้แนวกั้นด้านหน้ารัฐสภา / มวลชนบางส่วนสวมชุดกันฝน ใช้ร่มและใช้เรือยางรูปเป็ดสีเหลืองเป็นกำบัง