หลังจากมีกระแสข่าวว่านายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ จะเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ล่าสุด นายวีระศักดิ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งรมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 9พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งการทำงานที่ผ่านมา รู้สึกอย่างไรและสิ่งที่อยากเห็นในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายใต้รมว.คนใหม่ในรัฐบาลชุดใหม่คืออะไร อ่านได้จากสัมภาษณ์นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พอใจผลงานปฏิรูปท่องเที่ยว
เป็นเวลากว่า 16 เดือน ที่ผมทำงานโดยไม่มีวันหยุด เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีเวลาทำงานไม่มาก เมื่อได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงโค้งท้ายที่ยังเหลือของรัฐบาล จึงมีเวลาจำกัด แต่ก็พอใจในการทำงานที่ผ่านมา ที่ถือว่าได้ก่อกำแพงสร้างความยั่งยืน เพื่อวางรากฐานให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยได้ดีพอสมควร ก็หวังว่าจะถูกเอาใช้ประโยชน์ต่อไปในด้านใดด้านหนึ่งได้บ้าง
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
เป้าหมายใหญ่ในการทำงานของผม เน้นเรื่องความยั่งยืน ทำให้การท่องเที่ยวเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อลดความเหลื่อมลํ้า สร้างความเป็นธรรม กระจายการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว
ทำให้ที่ผ่านมาจะเห็นว่าผมไม่ได้เข้ามาคอยเปิดงานต่างๆ แต่ได้เข้ามาวางรากฐานการปฏิรูปเชิงโครงสร้างให้กับการท่องเที่ยวของประเทศ ก็จะเห็นว่ามีการแก้ไขกฎหมายกฎกระทรวง ประกาศต่างๆเกิดขึ้นหลายเรื่อง หรืออย่างการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งชาติ ก็ยังรอการประกาศใช้อยู่ ที่มีในเรื่องการวางกติกาให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทำประกันเมื่อเดินทางมาเที่ยวไทยการทำเรื่องของความปลอดภัย ที่ได้พยายามยกร่าง ก.ม.เรื่องของความปลอดภัยท่องเที่ยว ส่งกฤษฎีกา การวางกติกาให้มัคคุเทศก์ ทำบัตรไกด์ เหลือ 3 แบบ จากเดิมที่มีสารพัดแบบ
บูรณาการการทำงาน
ส่วนในเชิงนโยบาย ก็ยังได้ให้ทิศทางที่ชัดเจนว่าควรจะมีการลดเพดานการวางแบงก์การันตีของบริษัทนำเที่ยว เพราะไม่สมเหตุสมผลที่รัฐจะให้เขามาวางแบงก์การันตีรวมกันแล้วปีละเป็นพันล้านบาท แต่มีการใช้จริงแค่ปีละหลักล้านบาทเท่านั้น แทนที่จะให้ผู้ประกอบการได้นำเงินไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น หรือแม้แต่การทำให้เกิดการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center : TAC) ที่วันนี้ได้รับการยกย่อง
การทำงานระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรมการท่องเที่ยว, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ที่มีการทำให้ระบบมีการทำงานร่วมกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูล ไม่เกี่ยงไม่แย่งกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างขนานใหญ่ ในการวางรากฐานให้กับการท่องเที่ยว
รวมไปถึงการทำงานร่วมกับกระทรวงต่างๆ อย่างร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ทำเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ทำเรื่องสินค้าท่องเที่ยวของชุมชนต่างๆทางออนไลน์ ร่วมกับกระทรวงคมนาคม ทำเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางผ่านระบบขนส่งต่างๆ การอำนวยความสะดวกในการเดินทางเที่ยวเมืองรอง ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำเรื่องการท่องเที่ยวเชิงรับผิดชอบ ลดขยะในทะเล
นอกจากนี้เรายังทำเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งในไทยและการร่วมมือกับ 10 ประเทศอาเซียน ในการผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อมและTourism For All การสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เป็นทั้งนักท่องเที่ยว นักอนุรักษ์และจิตอาสา
ดันเที่ยวเมืองรอง-ชุมชน
ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการทำเรื่องของการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดการสำลักนักท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวเข้าไปมากเกินการรองรับ การเพิ่มโอกาสให้กับเมืองรองชายแดน โดยให้ต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นวีซ่าเพื่อท่องเที่ยวเข้าไทย สามารถเดินทางผ่านด่านพรมแดนทางบก ที่เป็นเขตติดต่อกับพรมแดนทางบกกับประเทศเพื่อนบ้านเข้าไทยได้ โดยยกเว้นการตรวจลงตราได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรองที่เป็นเมืองชายแดนของไทยได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
ในแง่ธุรกิจ ก็มีการสนับสนุนเรื่องของสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง อาทิ การจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่อย่างMotoGP การจัดกิจกรรมวิ่ง ที่ผนวกกับเรื่องเก็บขยะ และจัดให้มีคู่มือมาตรฐานในการจัดกิจกรรมวิ่งครั้งแรกในไทย ขณะที่การกระตุ้นการท่องเที่ยว วันนี้จะเห็นว่าเราขยายตลาดนักท่องเที่ยวอาเซียนมาเที่ยวไทย เท่ากับคนจีนมาเที่ยวไทย ซึ่งอยู่ที่ราว 10 ล้านคนต่อปีแล้ว
การส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศ จนเกิดการใช้จ่ายเท่ากับคนจีนเดินทางมาเที่ยวไทย การผลักดันการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ เพื่อสร้างโอกาสให้การท่องเที่ยวในช่วงเวลาและพื้นที่ที่บางช่วงต้องเติมเต็มนักท่องเที่ยวเข้าไป ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวผมทองอย่างยุโรป อเมริกา เราก็พยายามส่งเสริมให้เติบโตตามเซ็กเมนต์ เช่น สุขภาพ, ชุมชน, ธรรมชาติ
ขอรมว.ใหม่กระจายท่องเที่ยว
สิ่งที่อยากฝากให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวคนใหม่ คือ ต้องให้กำลังใจกับคนที่จะเข้ามาทำงานใหม่ ที่ต้องทำงานหนักมาก เพราะวันนี้ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวกว่า 38 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรของแคนาดาทั้งประเทศ และมากกว่าประชากรของเอเชียในบางประเทศ จึงอยากขอให้รัฐบาลใหม่และรัฐมนตรีท่องเที่ยวคนใหม่เข้ามาดูแลเป็นพิเศษในเรื่องของการผลักดันให้เกิดการกระจายทั้งนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว เพื่อเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวจะได้ลงไปสู่คนที่ยังไม่ได้รับประโยชน์
เพราะวันนี้แม้ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ยังกระจุกตัว การเอานักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากๆ แต่ถ้ายังเกิดการกระจุกตัวอยู่ จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมในการใช้ทรัพยากร ที่จะเป็นปัญหาของการท่องเที่ยวในระยะยาว ซึ่งวันนี้เรามีปริมาณนักท่องเที่ยวมากพอแล้ว และมองว่าการปรับคุณภาพ มาตรฐานของนักท่องเที่ยว เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
ส่วนนโยบายการทำงานที่ผ่านมา จะมีการนำไปสานต่อหรือไม่ คงเป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ เพราะการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว เขาก็มีนโยบายในการทำงานเหมือนกัน ก็ต้องเคารพเสียงของประชาชนที่เลือกมา ส่วนตัวผมนับจากนี้ไป ก็ยังคงปวารณาตนที่จะทำกิจที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในด้านต่างๆ ตามแต่โอกาสจะอำนวยต่อไป
สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3469 ระหว่างวันที่ 12 - 15 พฤษภาคม 2562