ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เชิญตัวแทนสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุดรธานี ททท.สำนักงานจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการโรงแรมที่พักในจังหวัดประมาณ 30 แห่ง เข้าร่วมประชุม
นายนิรัตน์ แจ้งที่ประชุมว่า หลังจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้พบปะพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการท่องเที่ยวทุกฝ่าย รวมถึงกรณีที่จังหวัดอุดรธานี ยังไม่ได้รับคัดเลือกเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก แต่คงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของท่องเที่ยวเมืองรอง โดยตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญคือตัวเลขสถิติผู้เข้าพักโรงแรม
“ที่ผ่านมาตัวเลขสถิติผู้เข้าพักโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ยังไม่ตรงกับความเป็นจริง ด้วยเหตุผลทางด้านธุรกิจ บางรายแจ้งการเข้าพักในอัตราตํ่ามาก จำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้เสียใหม่ เพื่อเร่งยกฐานะอุดรธานีให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักให้ได้”
ผู้ว่าฯยํ้าด้วยว่า อุดรธานีมีศักยภาพและปัจจัยเสริมที่แข็งแกร่งและโดดเด่น อาทิ มีสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคน/ปี สร้างรายได้เป็นอันดับ 2 ของสนามบินในสังกัดกรมท่าอากาศยาน มีตัวเลขสถิติของนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในอุดรธานีปีละเป็นจำนวนมาก เฉพาะที่คำชะโนด อำเภอบ้านดุง ตัวเลขชัดเจนเพราะจัดเก็บทุกวัน มีนักท่องเที่ยวมาถึงปีละ 3 ล้านคน ยังมีเที่ยวทะเลบัวแดงหนองหาน อำเภอกุมภวาปี ปีละ 350,000 คน ซึ่งยังไม่รวมตัวเลขของคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางผ่านด่านจังหวัดหนองคาย เฉพาะคนที่ถือหนังสือเดินทางอย่างเดียว ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2562 ก็มีจำนวนถึง 1.6 ล้านคนเศษ ไม่รวมถึงคนที่ถือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาสอีกประมาณ 810,000 คน รวมแล้วประมาณ 2.41 ล้านคน ซึ่งพบว่าประมาณ 80% คนกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาในอุดรธานี ส่วนหนึ่งมาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีญาติจำนวนหนึ่งติดตามมาดูแลและพักในที่ที่ทางโรงพยาบาลจัดหาไว้ให้ ซึ่งไม่มีตัวเลขสถิติแจ้งให้ทราบอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ผู้ว่าฯกล่าวอีกว่า จากตัวเลขสถิติต่างๆ ดังกล่าวเห็นว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่น่าจะผ่านเกณฑ์กำหนดของ “ท่องเที่ยวเมืองหลัก” ที่ปีละ 4,000,000 คนขึ้นไปได้แล้ว จึงขอให้ผู้ประกอบการโรงแรมจดแจ้งตัวเลขสถิติผู้เข้าพักให้ตรงกับความเป็นจริง อย่าหลบเลี่ยงภาษี เพราะจะเป็นการได้ที่ไม่คุ้มเสีย รวมทั้งทำให้จังหวัดเสียโอกาสที่ดีในหลายๆ ด้าน เช่น การพัฒนาจังหวัด การพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด งบประมาณพัฒนาโครงการที่สำคัญๆ ก็ไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐ และสูญเสียรายได้ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
“ผมต้องการทำสิ่งนี้เพื่อคนอุดรธานี และเป็นของขวัญให้กับจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากผมเห็นว่าการเป็นเมืองหลักท่องเที่ยวนั้น จะมีโอกาสที่ดีต่อการพัฒนาจังหวัด และการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป” ผู้ว่าฯกล่าวยํ้า
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,540 วันที่ 16 - 18 มกราคม 2563