นาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าช่วงนี้ทุกประเทศที่เคยต้อนรับตลาดจีนเยอะๆ ต้องบาดเจ็บจากการขาดรายได้ทั่วกันทุกประเทศ มากน้อยคงตามลำดับไป ไทยดูจะมากหน่อย แต่ในสถานการณ์ที่จะใช้เวลาจนกว่ามนุษย์จะควบคุมโรค หาทางรักษาที่มั่นใจได้ และอาจแม้แต่ค้นเจอวิธีป้องกันได้ด้วยยาหรือวัคซีนสูตรใหม่ เชื่อว่าต้องไม่น้อยกว่า3เดือนนับแต่นี้ไป
สิ่งที่ไทยควรใช้วิกฤตนี้ให้เกิดเป็นโอกาสสองเรื่องทันทีคือ 1. คิดเสียว่าวันที่ห้องรับแขกของเราจะไม่ยุ่งนัก นี่แหละคือวันที่จะทาสีผนัง ซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เปลี่ยนหลังคาฝ้าเพดาน หรือเปิดอบรมบุคลากรถอดประสบการณ์กันยกใหญ่
ผมเห็นว่าเวลานี้ฝ่ายการตลาดก็ทำในสิ่งที่ทำได้ไป แต่ฝ่ายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ฝ่ายพัฒนามาตรฐานบริการท่องเที่ยว ฝ่ายประบปรุงระบบคิวรอคอยในการเดินทาง ฝ่ายพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว ฝ่ายปรับปรุงถนนหนทางทางเท้าทางลาด ฝ่ายทบทวนปรับแก้กฏหมาย ฝ่ายออกและกำกับใบอนุญาตควรรีบใช้จังหวะนี้ ดำเนินการในเรื่องที่ปกติท่านจะไม่มีเวลาว่างถึงสามสี่เดือนเพื่อแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหา ซึ่งผมแน่ใจว่ามีหมกกันอยู่ใต้พรมเยอะพอดู
งัดเอาออกมาแกะแก้ซะเลย กิจกรรมเหล่านี้ทำข่าวได้ ฝ่ายการตลาดก็เอาไปนำเสนอยั่วใจให้คนอยากมาลองโฉมใหม่ของบริการในไทยกัน รัฐและสถาบันการเงินมานั่งตกลงหาทางสนับสนุนให้ผู้ที่กำลังจะปรับยกมาตรฐานใดๆได้เข้าถึงเงินกู้เพื่อการลงทุน โดยมีเงื่อนไขผ่อนปรน แบบนี้ เราก็จะได้"นิว"Thai tourism standards ที่ยั่งยืนขึ้น แข่งขันได้ดีขึ้น และเป็นธรรมต่อทุกๆอย่างทุกๆฝ่ายมากขึ้น
ข้อ2 ใช้โอกาสนี้ เร่งทำการวิจัย สมุนไพรและอาหารตำรับไทยๆ..ว่ามีสรรพคุณอย่างไรในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ อะไรกิน ทา อม เคี้ยว เหน็บ สวน แล้วได้ผลทางวิทยาศาตร์อย่างไร ใช้ป้องกันไวรัสหรือเชื่อร้ายอะไรได้บ้าง แก้หรือลดพยาธิสภาพอะไรได้แบบไหน จะได้นำมาจดทะเบียน ทำหีบห่อ ให้เป็นสินค้าระดับโลกกับเขาได้
ทำสองอย่างนี้ได้แค่ไหนก็ดีต่อทั้งสุขภาพไทยไม่ว่าจะร่างกายหรือเศรษฐกิจ โดยเน้นให้คนท้องถิ่นได้ประโยชน์ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ลดความยากจน กันได้ในภาวะที่โลกจะยังต้องเจอกับอีกสารพัดอุปสรรคไปเรื่อยๆต่อแต่นี้
เราควรมองให้เห็นมุมที่ได้กำลังใจ..แล้วเป็นกำลังใจให้แก่กันและกันรายได้หาย แต่ถ้าทำอะไรได้ดีขึ้นเราก็จะฟื้นเร็วและกลับมาอย่างแข็งแรงกว่าเดิม ขอให้สู้