นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้มีแนวโน้มเติบโตที่ดี หลังจากผู้ประกอบการสถานีทีวีดิจิทัลหลายช่องติดต่อซื้อคอนเทนต์ไปออกอากาศเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนรายการปกติที่ไม่สามารถผลิตได้ในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) รวมถึงทางสถานีต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านการผลิตรายการในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จึงเป็นโอกาสของ JKN ในฐานะผู้นำธุรกิจลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายจาก 8 กลุ่มคอนเทนต์ ครอบคลุมสาระและความบันเทิง โดยประเภทคอนเทนต์ที่ทีวีดิจิทัลให้ความสนใจ ได้แก่ ซีรีส์อินเดีย ซีรีส์ฟิลิปปินส์ และสารคดีจากแบรนด์ดังระดับโลก
ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี JKN ได้ส่งซีรีส์ดังลงผังทีวีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้ประเดิมส่ง ‘นิทานเวตาล’ สุดยอดวรรณกรรมอมตะ ซีรีส์อินเดียแนวแฟนตาซี ผ่านช่อง GMM25 เมื่อกลางเดือนมีนาคม ตามด้วยช่อง 3HD ที่ซื้อคอนเทนต์ซีรีส์ฟิลิปปินส์ฟอร์มยักษ์ ‘ศึกล้างเผ่าพันธุ์ พระจันทร์สีเลือด’ ซีรีส์ดังที่กวาด 3 รางวัลซีรีส์โทรทัศน์ยอดเยี่ยมของฟิลิปปินส์ ซึ่งเริ่มออกอากาศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุดช่องเวิร์คพอยท์ พร้อมนำอมตะซีรีส์ ‘พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก’ ซีรีส์ที่แฝงด้วยหลักธรรมคำสอน กลับมาให้ได้รับชมอีกครั้ง กำหนดเริ่มออกอากาศตั้งแต่ 6 เมษายนเป็นต้นไป
ไม่เพียงเท่านี้ ช่อง 8 ได้ตกลงซื้อคอนเทนต์ซีรีส์อินเดียเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ประเดิมด้วย “นาคิน แค้นรักนางอสรพิษ ซีซั่น3” ซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีแห่งปี กับเรื่องราวความรักครั้งใหม่ ที่แรงอาฆาตจะนำพาให้พบรักแท้ การันตีคุณภาพด้วยรางวัลชนะเลิศจากเวทีชั้นนำของอินเดีย ที่สุดของซีรีส์ ออกอากาศตอนแรก 13 เมษายน 2563
“ตลาดคอนเทนต์ในประเทศช่วงครึ่งปีแรกถือว่าโดดเด่นมาก เนื่องจากทีวีดิจิทัลเลือกซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จาก JKN เพิ่มเติมเพื่อรองรับกับผู้ชมที่ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น เราจึงหาคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ชม ส่งผลดีให้เรามีรายได้เติบโตและมีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ”
ด้านนายธีรภัทร เพ็ชรโปรี รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี JKN กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อขยายวงเงินออกหุ้นกู้เพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท จากวงเงินเดิมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้รวม 900 ล้านบาท บริษัทฯ พร้อมดำเนินการเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินดังกล่าว ซึ่งมั่นใจว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการออกหุ้นกู้ในปัจจุบันอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจ บริษัทจึงได้มีการเตรียมแผนสำรองรองรับการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปีนี้เรียบร้อยแล้ว โดยใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการและวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะไม่กระทบต่อแผนดำเนินกิจการแต่อย่างใด