วันที่ 5 พ.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบ่ล เวลา 12.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า จากจัดการทำหน้าที่และความห่วงใยของทุกคนใน ครม. ทุกคนได้ทำอย่างเต็มที่ในเรื่องของมาตรการผ่อนปรน ในฐานะนายกรัฐมนตรียังมองเห็นว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในเรื่องของความร่วมมือจากภาคธุรกิจ เอกชนต่างๆ ในการผ่อนปรนมาตรการ รวมไปถึงความร่วมมือจากประชาชนในการสร้างรายได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากขณะนี้
ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่ก็จำเป็นจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ในด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพราะเรายังวางใจในเรื่องเหล่านี้ไม่ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนการเปิดร้านต่างๆ ก็เห็นว่าหลายๆ ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีการผ่อนปรนก็ได้มีการปรับมาตรการของตัวเองในเรื่องของ Social Distancing อย่างดียิ่ง แต่หลายอย่างก็ยังคงต้องปรับให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกันโดยต้องคำนึงถึงมาตรฐานด้านการสาธารณสุขเป็นประเด็นสำคัญ
“สำหรับการรุมเพื่อแย่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านมา ผมขอตำหนิและได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องมีมาตรการที่ชัดเจน ในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้ ว่าในแต่ละรายจะต้องมีปริมาณการจำกัดการซื้อ ว่าต้องเป็นเท่าไหร่ รวมทั้งจะต้องมีการเปิดตามเวลาที่กำหนด ไม่ให้มีเก็บภาพการแย่งชิงกันซื้ออย่างที่ปรากฏขึ้นมาอีก จะถือว่าไม่เป็นการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล ก็ขอให้ภาคเอกชน ร้านค้าต่างๆที่จำหน่ายสุราต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไป ไม่เช่นนั้นก็จะต้องถูกปิด ไม่ให้ขายอีกต่อไป จึงขอให้มีมาตรการที่เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังเตรียมการเพื่อเข้าสู่ระยะที่สองถ้าหากสามารถผ่านระยะที่ 1 ไปได้ 14 วัน ก็มีอีกหลายแห่งด้วยกันที่จะมีการเปิดในโอกาสต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือจะมีประชาชนจำนวนมากเข้าไปยังสถานประกอบการขนาดใหญ่รวมทั้งศูนย์การค้าต่างๆ จึงขอเตือนว่าจะต้องมีการกำหนดจำนวนปริมาณคนที่จะเข้าไปใช้บริการในสถานที่เหล่านั้นเป็นไปอย่างจำนวนจำกัด โดยจะต้องจัดให้ทยอยเข้าไปโดยใช้เวลาอยู่ในสถานประกอบการนั้นๆไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการกรูเข้าไปครั้งเดียวทำให้เกิดปัญหาการแย่งชิง
ดังนั้น ทุกๆสถานประกอบการขนาดใหญ่ศูนย์การค้าจะต้องมีเต็นท์หรือพื้นที่พักคอยดันนอกเมื่อถึงเวลาก็ให้จัดทยอยเข้าไปตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ว่าจะสามารถเข้าไปได้เท่าไหร่อย่างไรรวมทั้งจะต้องมีมาตรฐานในการคัดกรองคนที่จะเข้าไปยังสถานที่เหล่านั้นต้องมีการวัดอุณหภูมิการใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาใน ศบค.ว่าจะอนุญาตให้เปิดอะไรบ้างในระยะต่อไปก็ขอให้ทุกคนได้เตรียมการให้พร้อม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่หลายคนกังวลก็คือในสถานประกอบการขนาดใหญ่อาจจะมีความพร้อมมากกว่า เพราะมีเครื่องมือ อุปกรณ์ มีทุนทรัพย์มากกว่า ดังนั้นในส่วนของตรงกลางทุกคนก็ต้องช่วยด้วยอะไรที่ต้องทำก็ขอให้ทำให้ได้เราถึงจะเปิดให้บริการได้ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนมีมาตรฐานที่รัดกุม