นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรม ท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ) (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนปรน ระยะที่3 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563
ทำให้สายการบินขอเพิ่มเส้นทางบินเพื่อให้บริการเแก่ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นและเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง จำนวน 5 สายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศ หลังรัฐออกมาตรการผ่อนปรน ระยะที่3
ได้แก่ 1.สายการบินนกแอร์ 2.สายการบินไทยแอร์เอเชีย 3. สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ 4.สายการบินไทยสมายล์ และ 5. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาในการใช้ท่าอากาศยานเพื่อการขึ้นลงของอากาศยาน ( ฉบับที่ 4 )
โดยท่าอากาศยานที่เปิดให้บริการเฉพาะเส้นทางภายในประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานขอนแก่น ชุมพร ตรัง นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่านนคร นราธิวาส บุรีรัมย์ ปาย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่สอด แม่ฮ่องสอน ระนอง ร้อยเอ็ด เลย ลำปาง สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี
โดยจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 20.00 น. หรือปรับลดเวลาให้สั้นกว่าระยะเวลาที้กำหนดตามความจำเป็นและเหมาะสม และท่าอากาศยานที่สามารถให้บริการการบินภายในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศกระบี่ สุราษฎร์ธานี และหัวหิน โดยเปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
จากประกาศฉบับดังกล่าว ส่งผลให้ให้ท่าอากาศยานทุกแห่งสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติทุกท่าอากาศยาน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการปลดล็อค แต่ ทย. ยังคงมีมาตรการตรวจเข้มที่ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ดังนี้
1. ทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส สำหรับผู้โดยสารขาเข้าทุกคนจะต้องกรอกแบบสำรวจการเดินทาง ต. 8 คค. เพื่อเก็บประวัติการเดินทางของผู้โดยสาร
2. ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น จุดรับรอรับกระเป๋าสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสาร (Check – in counter) ที่นั่งรอก่อนการเดินทางได้จัดให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
สำหรับการรักษาความสะอาดเพื่อความปลอดภัย ท่าอากาศยานทุกแห่งดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน พร้อมตั้งจุดบริการเจล แอลกอฮอร์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ
ทำความสะอาดโดยใช้ แอลกอฮอร์และน้ำยาฆ่าเชื้อ ในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ทุกชั่วโมงหรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน รวมถึงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ทุกสัปดาห์
ทั้งนี้ ทุกท่าอากาศยานได้มีการตั้งจุดลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าออกของผู้โดยสาร ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม สำหรับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง
ทย.ขอเน้นย้ำขอให้ศึกษาประกาศ / เงื่อนไข คำสั่งของจังหวัดปลายทาง ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพื่อการเตรียมตัวในการเดินทางได้ถูกต้องตามประกาศดังกล่าว ซึ่งผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ผ่าน เฟสบุ๊คของกรมท่าอากาศยาน Department of Airports : กรมท่าอากาศยาน และเพจกรมท่าอากาศยาน “ข่าวและภาพกิจกรรม กรมท่าอากาศยาน” และเพจของท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทย.
ขอให้มั่นใจว่า ทย. มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร และสายการบิน ณ ท่าอากาศยาน ที่อยู่ในความดูแลของ ทย. ให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด – 19 ควบคู่มาตรฐานการบิน