นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ให้บริการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ “ซิซซ์เล่อร์” เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพอาหารทุกเมนูที่ตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม หรือตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศไทย แนวโน้มการสั่งซื้ออาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่เติบโตขึ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการตัดสินใจเลือกรับประทานอาหาร ในร้านที่มีมาตรการรักษาความสะอาด และควบคุมสุขลักษณะของพนักงาน และความสะอาดภายในร้าน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความไว้วางใจเข้ารับบริการของลูกค้า ซึ่งหลังจากรัฐบาลได้ประกาศ คลายล็อกเฟส 3 ให้ร้านอาหารภายในศูนย์การค้าสามารถเปิดให้บริการได้ ภายใต้มาตรการควบคุมสุขลักษณะอย่างเข้มงวด ซิซซ์เล่อร์ได้เดินหน้าพัฒนากลยุทธ์การทำตลาดที่ครอบคลุมทั้งการให้บริการภายในร้าน ตลอดจนเสริมแกร่งแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่และแกร็บแอนด์โก ภายใต้แนวคิด “New Sizzler New Normal”
สำหรับการรับทาน “ซิซซ์เล่อร์” ในร้าน ทุกสาขาทั่วประเทศ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่สบายกว่าเดิม แต่เป็นไปตามนโยบาย Social distancing อย่างเคร่งครัด ผ่านความปลอดภัย อาทิ Touchless Menu รูปแบบออนไลน์ ชุดช้อนส้อมหุ้มพลาสติกฆ่าเชื้อเฉพาะคุณ การนั่งเว้นระยะห่าง การเก็บเงินแบบไร้การสัมผัส ตลอดจน การทานสลัดบาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจของการรับประทานซิซซ์เล่อร์ในร้าน ที่เปิดให้บริการภายใต้มาตรการที่ปลอดภัย โดยเตรียมถุงมือให้ลูกค้าสวมใส่ในข้างที่สัมผัสอุปกรณ์ตักสลัดบาร์ รวมถึงมาตรการกำหนดเข้าแถวแบบเว้นระยะห่าง 1 เมตรขณะตักสลัดบาร์ และใช้ทางเดินแบบทางเดียว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า
ด้านนางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด เปิดเผยว่า หลังจากที่ ซิซซ์เล่อร์ได้เปิดตัวโมเดล Sizzler to Go สาขาแรกที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มผู้บริโภคคนรักสุขภาพ ซิซซ์เล่อร์ยังเดินหน้าขยายสาขาใหม่อีก 7 สาขา โดยแบ่งเป็น 4 สาขา ในรูปแบบ Standalone kiosk ที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก ช่องนนทรี สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และรูปแบบแกร็บแอนด์โกที่หน้าร้านซิซซ์เล่อร์ ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 7 แห่งจะพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 2
นอกจากนี้ ซิซซ์เล่อร์ยังเตรียมแผนการเปิดตัว “Sizzler Cloud Kitchen” โมเดลครัวกลางรูปแบบใหม่ให้บริการที่ สะดวก ใกล้บ้าน จากการนำเอาคอนเซ็ปต์ Cloud มาประยุกต์ใช้กับร้านอาหาร เกิดเป็น Sizzler Cloud Kitchen โดยการยกครัวของซิซซ์เล่อร์มาไว้ในร้านเดลิเวอรี่ของบริษัทในเครือ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าได้ทั้งในรูปแบบเดลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน (takeaway) ซึ่งแพลตฟอร์ม Sizzler Cloud Kitchen จะช่วยให้ลูกค้าที่สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ได้รับอาหารรวดเร็วขึ้น สดร้อนเหมือนมีเชฟมาปรุงให้บ้าน ด้วยที่ตั้งสาขาใกล้บ้านในระยะ 3 กิโลเมตร อีกทั้งสามารถสั่งอาหารได้ถึง 3 แบรนด์ ภายในออเดอร์เดียว ทั้งซิซซ์เล่อร์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี และบอนชอน รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารที่บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านอาหารในศูนย์การค้า นางนงชนก กล่าวทิ้งท้าย