ล่าสุด ทอท.ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ถึงข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์ ผลกระทบในปัจจุบันและประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างปีงบประมาณ2563 ถึง 2566 ภายหลังผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยประเมินว่าตามที่ได้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศอย่างรุนแรง
ทำให้ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท) ทั้ง 6 แห่งได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ได้รับผลกระทบจากจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่ลดลงเป็นจำนวนมาก
ทอท.จึงได้วิเคราะห์สถานการณ์ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบันและประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างปีงบประมาณ 2563 – 2566 โดยในปีงบประมาณ 2563 ทอท. คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวม 491,900 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารรวม 69.04 ล้านคน หรือมีอัตราการเติบโตลดลง 45.1%และ 51.3% ตามลำดับ
สำหรับ ปริมาณการจราจรภายในประเทศจะเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนส.ค.2563 จนกลับมามีปริมาณการจรจรเป็นปกติ (ที่ระดับเดิมของปี2562) ในเดือนต.ค.2565 ส่งผลให้คาดว่าในปีงบประมาณ 2565 ทอท. จะมีเที่ยวบินรวม 761,800 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารรวม 108.87ล้านคน หรือมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปี2562 ลดลง 15.0% และ 23.3% ตามลำดับ
ทั้งยังคาดว่าในปีงบประมาณ 2566 จะมีปริมาณเที่ยวบินรวม 902,200 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารรวม 144.20 ล้านคน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 0.7% และ1.6% ตามลำดับ การประมาณการดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานที่คาดว่ายังคงมีการระบาดระลอกที่ 2 ในหลายประเทศที่เป็นเป้าหมายในการทำความตกลงระหว่างประเทศอนุญาตให้เดินทางระหว่างกันภายใต้เงื่อนไขด้านสาธารณสุขตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ (Travel Bubble)
รวมถึงรัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการกำหนดพื้นที่กักกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (StateQuarantine) กับหลายประเทศที่เป็นเส้นทางหลักของเที่ยวบินระหว่างประเทศของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
โดยคาดว่าจะมีการค้นพบวัคซีนโควิด-19 และมีการจำหน่ายวัคซีนได้ในเดือนก.ค.2564 จนสามารถควบคุมการระบาดทั่วโลกได้ ทำให้เศรษฐกิจหลักของประเทศจะเริ่มฟื้นตัวในเดือนม.ค.2565 จนกลับมามีปริมาณการจราจรที่ระดับปกติของปี2562 ในเดือนต.ค.2565
ในส่วนของประมาณการรายได้จากการดำเนินงาน อันเนื่องมาจากผลกระทบจากจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่ลดลงดังกล่าว
ในปีงบประมาณ 2563 ทอท. คาดว่าจะมีรายได้ลดลงจากปีงบประมาณ2562 ในอัตรา 50.70% และในปีงบประมาณ 2564 จะมีรายได้ลดลงจากปีงบประมาณ 2563 ในอัตรา 42.21%
ทั้งนี้หากกรณีมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้ และมีผลกระทบต่อปริมาณการจราจรทางอากาศและประมาณการรายได้ของทอท. อย่างมีนัยสำคัญ ทอท. จะได้รายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบโดยเร็วต่อไป