วันนี้ (วันที่ 20 ต.ค.63 ) ในเวลา 17.00 น. นักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด ภายใต้วีซ่าพิเศษ หรือ สเปเชียลทัวริสต์ วีซ่า (STV) จำนวน 41 คน จากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยสายการบินสปริงแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 9C8579 เส้นทางเซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ
โดยสายการบินจะมาลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) ถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่รัฐบาลอนุญาตในรูปแบบของวีซ่าพิเศษ เพื่อทดลองการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบจำกัด
ทั้งนี้เที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา โดยจะมีคนไทย จำนวน 30 คน เดินทางกลับมาพร้อมกับเที่ยวบินดังกล่าวด้วย
นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว จะเดินทางโดยผ่านขั้นตอนการคัดกรองโรคโควิด-19 ตามระบบปกติเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการกักตัว เบื้องต้นจะเป็นโรงแรมASQ ในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตามในระหว่างวันที่ 3-5 แรกของการกักตัวนั้น จะมีการเก็บสิ่งส่งตรวจทางจมูกและปาก (Swab) ครั้งที่ 1 และระหว่างวันที่ 11-14 จะทำ Swab เป็นครั้งที่ 2 ด้วย
ส่วนเมื่อครบ 14 วันแล้วจะมีการติดตั้งระบบติดตามตัวนักท่องเที่ยวต่อไป
อย่างไรก็ตามในวันที่ 26 ต.ค. นักท่องเที่ยว กลุ่ม STV จำนวน 100 คน จากกวางโจว ประเทศจีน ก็จะเดินมาทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเช่นกัน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ 2 ที่เข้าไทยในเดือนนี้
ส่วนเที่ยวบินอื่นๆที่จะเข้ามาเพิ่มเติมยังอยู่ในขั้นตอนการสื่อสารว่าจะเข้ามาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือในพื้นที่ที่มีสถานกักตัวทางเลือก อาทิ บุรีรัมย์ ชลบุรี ปราจีนบุรี ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยยืนยันว่าต้องกักตัวให้ครบ 14 วันแล้วจึงจะท่องเที่ยวในประเทศต่อได้ โดยมีแอปพลิเคชันติดตามตัวตน โดยเบื้องต้นต่างชาติที่จะเข้ามาระบุว่า เมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วต้องการไปเที่ยวพื้นที่ทะเล
ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า ประมาณ 1,200-1,600 คนต่อวัน อีกทั้งในเร็วๆนี้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ยังเตรียมพร้อมการเปิดให้บริการห้องปฏิบัติการคัดกรองตรวจเชื้อโควิด-19 ที่อาคารผู้โดยสารด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง