ท่องเที่ยวไทย หากยังฟื้น เป็นรูปตัว K ปีหน้าธุรกิจ 50% ปิดตาย

16 พ.ย. 2563 | 02:18 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2563 | 09:54 น.

การท่องเที่ยวของประเทศไทยในวันนี้ มีการฟื้นตัวในลักษณะรูปตัว K โดยเริ่มมีการขยับฟื้นตัวของการเดินทางเที่ยวในประเทศ สวนทางกับจำนวนต่างชาติเที่ยวไทยที่เป็นศูนย์ต่อเนื่อง หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ในปีหน้ามีแนวโน้มว่าธุรกิจกว่า 50% จะต้องปิดตายถาวร หากรัฐเลือกที่จะปราศจากโควิด แต่เศรษฐกิจกำลังล่มสลาย

       แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะเร่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวผ่านมาตรการต่างๆ หลังคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้คนไทยเริ่มเดินทางเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3  แต่ในทางตรงกันข้ามตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา (เมย.-ก.ย.63) ที่ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นศูนย์ และเพิ่งจะปลดล็อกให้ต่างชาติ 11 กลุ่มทยอยเดินทางเข้ามาบ้างตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

        แต่ก็ยังติดล็อกในเรื่องของเที่ยวบิน ที่ปัจจุบันทำได้เพียงการให้บริการกึ่งพาณิชย์เท่านั้น เพราะแม้ไทยจะอนุญาตให้สายการบินต่างชาติหลายสายทยอยเปิดเที่ยวบินขาเข้า เข้าประเทศไทยได้ แต่การขายตั๋วเข้ามา นักท่องเที่ยวต่างชาติจะบินเข้าไทยมาได้ ต้องเหลือขายจากการนำคนไทยกลับประเทศแล้ว

+ฟื้นตัวรูปตัว K

           ทำให้การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ของไทย ณ วันนี้ จึงออกมาเป็นรูปตัว K ซึ่งก็หมายถึงเมืองที่รองรับนักท่องเที่ยวไทย อาทิ นครศรีธรรมราช,หัวหิน,น่าน,อุดรธานี,เชียงใหม่ จะเห็นการเริ่มฟื้นตัวในทางขาขึ้น โดยมีอัตราการติดลบที่น้อยลง เฉลี่ยช่วงไตรมาส2 จากที่ติดลบระดับ70-90% มาช่วงไตรมาส3 ติดลบลดลงเหลือ 35-50% โดยตั้งแต่เดือนมกราคมกันยายน2563 มีคนไทยเที่ยวในประเทศรวม 52.71 ล้านคน-ครั้ง ลดลง 63.57% สร้างรายได้ 3.23 แสนล้านบาท ลดลง59.46%

            ตรงกันข้ามกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยู่ในทางขาลง เพราะเป็นศูนย์มาตั้งแต่เดือนเมษายน2563 ทำให้ไทยมีต่างชาติเข้ามาเที่ยว 6.69 ล้านคน ลดลง 77.29% สร้างรายได้3.32 แสนล้านบาท ลดลง 76.77% แม้ว่านับจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมารัฐบาลจะทยอยปลดล็อกเรื่องของวีซ่ามากขึ้น เปิดให้กลุ่มลองเสตย์ กลุ่มอีลิทการ์ด กลุ่มวีซ่าพิเศษ (STV) วีซ่านักท่องเที่ยว (ทัวริสต์ วีซ่า) แต่ก็มีเข้ามาได้เพียง 1,277 คนเท่า

            เฉพาะโครงการนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบSTV ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากเป้าหมาย 1,200 คนต่อเดือน ในทางปฏิบัติก็ทำได้เพียง 3 เที่ยวบิน รวมนักท่องเที่ยวต่างชาติ 315 คนเท่านั้น  ส่วนการจัดเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มSTV ในเดือนพฤศจิกายนนี้ สะดุดจากการที่ยุโรปกลับมาล็อกดาวน์ประเทศเป็นครั้งที่ 2 ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเดนมาร์ก ที่จะเดินทางมาไม่ได้รวมถึงนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น ที่ตอนนี้กลับมาเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงระดับกลาง ก็ทำให้ไม่สามารถที่จะเข้าไทยได้

ท่องเที่ยวไทย หากยังฟื้น เป็นรูปตัว K ปีหน้าธุรกิจ 50% ปิดตาย

           ความผันผวนจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอก2 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย และของโลก เพราะแม้แต่จีนเอง   ที่ทำข้อตกลงกับประเทศสิงคโปร์ แม้คนจีนเข้าสิงคโปร์ จะไม่ต้องกักตัว แต่เมื่อกลับจีนก็ต้องกักตัว ทำให้ก็แทบไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าสิงคโปร์

            อย่างไรก็ตามถ้าการฟื้นตัวยังอยู่ในรูปตัวK เช่นนี้ต่อไป จะเกิดช่องว่างห่างกันมากขึ้นระหว่างเมืองที่รับนักท่องเที่ยวไทย กับเมืองที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น คนจะตกงานมากขึ้น

         สิ่งที่จะเห็นจากนี้ คือ ถ้าไทยยังปิดประเทศ จะอยู่โดยปราศจากโควิด-19 เดิมเรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.3 ล้านคนต่อเดือน ตอนนี้ทำได้แค่หลักพันกว่าคน ถ้าทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ต่างจากการหยดน้ำลงในมหาสมุทร และโควิดก็จะอยู่กับเราไปจนกว่าจะมีวัคซีน ธุรกิจมีแต่ตายกับตาย เพราะที่ผ่านมาทุกลดต้นทุนไปแล้ว รอเพียงรายได้เข้ามาเท่านั้น

        ดังนั้นการเปิดประเทศเป็นสิ่งที่ธุรกิจท่องเที่ยวต่างเรียกร้องจากรัฐบาล เพราะการเปิดรับต่างชาติ ภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาดที่ดี ถ้าจะมีติดบ้างสัก 1% ก็น่าจะเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เมื่อเทียบกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  
ผ่ามาตรการประเทศต่างๆทั่วโลก เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ไฟเขียวยอร์ชหรู 60 ลำขนนักท่องเที่ยวเข้าไทยดันรายได้2.1 พันล
ท่องเที่ยวเฮ รัฐปลดล็อกต่างชาติเที่ยวไทย ไฟเขียวกต.ออก "ทัวริสต์ วีซ่า"
ท่องเที่ยว รายใหญ่ พ้นจุดตํ่าสุด SMEs ยังโคม่า
ชงตั้งกองทุนแสนล.ดึงเงินร่วมลงทุนฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวโคม่า
เปิดสมมติฐาน ฉุด ท่องเที่ยวปี 63 ดิ่งเหลือ 8.4 แสนล.

 

+ส่วนใหญ่มีเงินยืนอยู่ได้ถึงสิ้นธ.ค.    

            นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการ พบว่า ส่วนใหญ่มีกระแสเงินสดสามารถยืนอยู่ได้ในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้เท่านั้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2564 ถึงกลางปี 2564 หากยังไม่มีอะไรเข้ามาช่วย ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวจะตายสนิทกว่า 50% ทำให้เราพยายามผลักดันการเปิดประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

         โดยนอกจากการหารือกับจีน เพื่อเปิดทราเวลบับเบิลใน 22 มณฑลของจีนที่ไม่มีการแพร่ระบาดของโควิดแล้ว ก็จะหารือกับ ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันแบบไม่กักตัว

           นอกจากนี้หากไม่มีมาตรการพยุงผู้ประกอบการท่องเที่ยวปีหน้าจะมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่รอเผา หรือ ตายถาวรอย่างน้อย 50% เพราะไม่มีออกซิเจนมาช่วย อย่างกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยววงเงิน 5 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาทที่เอกชนเสนอมาช่วยซื้อโรงแรมหรืออุตสาหกรรมในท่องเที่ยว รอจนสถานการณ์ปกติก็จะขอซื้อคืน ปัจจุบันกระทรวงการคลังก็กำลังศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ ว่าจะสามารถหาเม็ดเงินจำนวนเท่านี้มาได้หรือไม่

ท่องเที่ยวไทย หากยังฟื้น เป็นรูปตัว K ปีหน้าธุรกิจ 50% ปิดตาย

            งานนี้ธุรกิจคงได้แต่ฝากความหวัง เพราะการพึ่งกำลังซื้อในประเทศคงไม่พอ เนื่องจากตลอดปี 2563 กำลังซื้อด้านท่องเที่ยวของคนไทยฟื้นมาแค่ระดับ 33% ของปี 2562 เฉพาะช่วงปลายปีซึ่งเข้าสู่ไฮซีซั่นดันได้สูงสุด 40% ของปีที่แล้ว แต่ปี 2564 สถานการณ์กำลังซื้อด้านท่องเที่ยวจะยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น เพราะจะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีปัจจัยบวกกระตุ้น คาดลดเหลือ 15% ของปี 2562

รายงาน : ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,627 วันที่ 15 - 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563