หั่นเงินเดือนเหี้ยน "การบินไทย" บักโกรก บีบพนักงานออก/ยกเลิกค่าไลเซ่นส์นักบิน

ภายใต้ แผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีแผนจะลดจำนวนพนักงานจาก 1.9-2.1 หมื่นคนในปี2563 เหลือ 1.3-1.5 หมื่นคน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม2564 การบินไทยได้ประกาศ โครงสร้างเงินเดือนใหม่ ให้พนักงานได้รับทราบ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานตัดสินใจว่า ยื่นสมัครงานใหม่ (Relaunch) ตาม โครงสร้างองค์กรใหม่ โดยนับอายุงานต่อเนื่อง หรือจะเข้าร่วม โครงการร่วมใจจาก ที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้บริษัทได้แจ้งปรับลดสวัสดิการบัตรโดยสารของพนักงานรวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ไปแล้ว ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยพนักงานที่จะไปต่อการบินไทยจะเปิดให้มายื่นความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองพนักงานเข้าสู่โครงสร้างใหม่ ตั้งแต่วันที่ 11-19 มีนาคม2564

ปรับฐานเงินเดือนใหม่

แหล่งข่าวจาก บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม2564 การบินไทยได้เปิดให้พนักงานแต่ละคนเข้าไปรับทราบฐานเงินเดือนใหม่เป็นรายบุคคล ผ่าน THAISquare/tg application/new salary ซึ่งภายใต้ฐานเงินเดือนใหม่นี้จะมีการบวกค่าภาษีเงินได้ให้พนักงาน เพื่อให้พนักงานใช้คำนวณในการจ่ายภาษีเอง โดยที่บริษัทจะไม่รับภาระจ่ายภาษีให้พนักงานเหมือนในอดีต

ทั้งนี้ ฐานเงินเดือนใหม่ของพนักงานจะไม่เท่ากัน มีทั้งที่ลดลง และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับ 8 ขึ้นไป แต่เฉลี่ยแล้วเมื่อพนักงานทุกคนต้องจ่ายภาษีเอง ฐานเงินเดือนใหม่ ก็ลดลงจากฐานเงินเดือนเดิมแน่นอน ยิ่งมีเงินเดือนสูงก็ต้องจ่ายภาษีสูงกว่า

กลุ่มที่มีเงินเดือนลดลงสูงสุด จะเป็นกลุ่มนักบิน ซึ่งลดลงไป 10-20% จากเดิมที่เงินเดือนนักบินจะอยู่ที่ราว 1 แสนบาทต่อเดือน ขณะที่นักบินผู้ช่วย เริ่มต้นจะอยู่ที่ 3.6 หมื่นบาทต่อเดือน นอกจากนี้นักบินยังถูกยกเลิกค่าไลเซ่นส์นักบิน จากในอดีตที่กัปตันจะได้รับอยู่ที่ 6 หมื่นบาทต่อเดือน และนักบินผู้ช่วยอยู่ที่ราว 3 หมื่นบาทต่อเดือน

ลดนักบินเหลือ905คน

ขณะที่พนักงานทั่วไป อาทิ พนักงานคาร์โก้ เฉลี่ยแล้วเงินเดือนจะลดลง 6-10% โดยพนักงานที่จะเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองตามโครงสร้างใหม่ จะสามารถเลือกสมัครได้คนละไม่เกิน 2 ตำแหน่ง โดยเป็นตำแหน่งในสายงานเดิมหรือสายงานอื่นก็ได้ สำหรับนักบินและลูกเรือสามารถแสดงความจำนงในตำแหน่งเดิม หรือตำแหน่งที่สูงขึ้นไปหนึ่งระดับ รวมทั้งสามารถแสดงความจำนงตำแหน่งที่ตํ่ากว่ากี่ตำแหน่งก็ได้

ในแต่ละหน่วยงานจะมีการสรุปว่ามีความต้องการพนักงานกี่คน ให้พนักงานเข้าไปแจ้งความจำนง ซึ่งบริษัทจะออกประกาศ Job Description ให้รับทราบต่อไป ซึ่งในแต่ละหน่วยงานมีโควต้าพนักงานต่างกัน อาทิ นักบิน จะมีจำนวน 905 คน ซึ่งมีการประกาศรายชื่อที่จะอยู่ต่อทั้ง 905 คนไปแล้ว หายไป 400 คน หรือลูกเรือจากเดิมมี 5 พันคน ก็จะเหลืออยู่ที่ 3 พันคนหายไป 2 พันคน ซึ่งกระบวนการกลั่นกรองจะเริ่มดำเนินการในวันที่22-26 มีนาคมนี้ และประกาศรายชื่อพนักงานที่จะได้ไปต่อเพียงตำแหน่งเดียวในวันที่ 1 เมษายนนี้

สำหรับพนักงานที่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างองค์กรใหม่ หลังผ่านกระบวนการกลั่นกรอง หรือพนักงานที่ไม่แสดงความจำนงเข้ากระบวนการกลั่นกรอง จะถูกบรรจุไว้ใน Cost Center ใหม่ในสังกัดฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) โดยตั้งชื่อว่า “กลุ่มพนักงานฟ้าใหม่” เพื่อทำการรีสกิล แล้วส่งไปทำงานในตำแหน่งของธุรกิจใหม่ๆของบริษัทที่จะเกิดขึ้น หรือนำเข้าไปเสริมในตำแหน่งที่ขาด เช่น งานครัว งานยกสัมภาระ และงานช่าง เป็นต้น

ส่วนพนักงานที่ไม่อยากไปต่อ ก็สามารถสมัครเข้าร่วม โครงการร่วมใจจาก MSP B และMSP C ที่จะเปิดรับสมัครในช่วงสุดท้ายระหว่างวันที่ 2-19 เมษายน 2564 โดยการบินไทยคาดว่าจะมีพนักงานเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากอยู่ที่ 2-3 พันคน

สหภาพต้านสัญญาใหม่

แหล่งข่าวยังกล่าวต่อว่า ในขณะนี้พนักงานหลายคนรู้สึกสับสนว่าจะยื่นสมัครงานใหม่หรือไม่ หรือควรจะเดินอย่างไร เนื่องจากในขณะนี้มี 3 สหภาพ แรงงานในการบินไทย ได้ออกมาแนะนำสมาชิกที่ในแนวทางที่ต่างกัน โดยกลุ่มสหภาพแรงงานพนักงานบริษัทการบินไทย (สร.พบท.) และสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) ได้ออกมาแนะนำไม่ให้สมาชิกเซ็นสัญญาจ้างใหม่ เนื่องจากมองว่าริดรอนสภาพการจ้างเดิม และมองว่านายจ้างกระทำผิดสัญญาจ้าง ย่อมถูกฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายจากลูกจ้างได้

ขณะที่สหภาพแรงงานการบินไทย (สร.กบท.) ออกมาแนะนำสมาชิกว่าถ้าพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการ MSP C ขอให้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการได้ในทันที ถ้าสมาชิกต้องการทำงานกับบริษัทให้แสดงเจตจำนงเข้าร่วมคัดเลือกตามโครงสร้างใหม่ ทั้งยังแนะนำว่าสมาชิกไม่ควรนิ่งเฉยหรือไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆที่บริษัทเสนอ พนักงานต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง

เนื่องจากมองว่าการบินไทยอยู่ภายใต้การฟื้นฟูกิจการ ไม่ได้ดำเนินธุรกิจในภาวะปกติ การเลือกทางผิดจนในที่สุดต้องนำคดีขึ้นสู่ศาลจะไม่เป็นคุณต่อตัวสมาชิกเอง เพราะสหภาพแรงงานฯไม่สามารถฟ้องคดีแทนผู้ใดได้ สมาชิกฯต้องเป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวเอง สมาชิกจะดำรงชีวิตได้อยู่หรือไม่ โดยไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ในช่วงเวลาที่ต้องสู้คดีถึงชั้นฎีกาที่ต้องใช้เวลาไม่ตํ่ากว่า 3 ปี และสร.กบท.ขอให้สมาชิกตัดสินใจด้วยดุลยพินิจอย่างรอบคอบ 

ทั้งนี้ ในแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย หลังจากหารือกับเจ้าหนี้แล้วได้ตัดประเด็นการลดหนี้คงค้างออกไป (แฮร์คัต) และจะไม่มีการลดทุนด้วย แต่จะเป็นการใส่เงินทุนก้อนใหม่ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งการบินไทยต้องการเงินทุนก้อนใหม่ราว 50,000 ล้านบาทนั้น โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะใส่เงินเข้ามาราว 2.5-2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาทเจ้าหนี้หุ้นกู้จะต้องพิจารณาใส่เงินเข้ามา 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,660 วันที่ 11 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• สหภาพฯ เตรียมเจรจาข้อยุติปมการบินไทยเปลี่ยนสภาพการจ้างงาน
• เปิด 36 กลุ่มเจ้าหนี้"การบินไทย" ยืดชำระยาวสุด 14 ปี
• "การบินไทย"ระส่ำสหภาพฯห้ามสมาชิกเซ็นสัญญาจ้างงานใหม่
• 'การบินไทย' เปิดแผนฟื้นฟูหนี้ท่วม4แสนล้าน ลด‘คน-ฝูงบิน’ พลิกกำไรปี68
• "การบินไทย"ออกเกณฑ์คัดเลือก“แอร์-สจ๊วต” ที่ได้ไปต่อต้องอายุไม่เกิน 55 ปี-ไม่อ้วน