จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความในโลกออนไลน์ว่า สวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ประกาศเลิกกิจการเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรู้สึกใจหายหลังทราบข่าวเพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของการท่องเที่ยวมานานกว่า 24 ปี
นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ผู้จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากจระเข้ รวมทั้งยังเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ของ จ.ชลบุรี และเป็นเจ้าของที่ตั้งสวนเสือศรีราชา ได้เผยถึงกระแสข่าวการเลิกกิจการว่า ไม่เป็นความจริง
พร้อมยืนยันว่าสวนเสือศรีราชา จะปิดให้บริการเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 14 วัน ตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อ จ.ชลบุรี หลังถูกยกระดับพื้นที่ให้เป็นสีแดงเข้ม
"ไม่เคยมีแนวคิดที่จะปิด ซึ่งหากหมดสัญญาเช่าพื้นที่ แล้วเจ้าของเดิมไม่ทำต่อ ก็จะรับดูแลทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะรีโนเวทสวนเสือศรีราชา ให้เป็นศูนย์รวมทางการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่จะมีทั้ง คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านกาแฟชื่อดังและจะเพิ่มจุดขายทางการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดคนไทยให้เข้าพักมากขึ้น"
ทั้งนี้ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าซื้อผลิตภัณฑ์จากจระเข้ทั้ง กระเป๋าหนังจระเข้ เนื้อจระเข้ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอื่นๆ มีรายได้หลักล้านบาทต่อวัน รวมทั้งการส่งออกเนื้อจระเข้ไปยังจีนและญี่ปุ่นก็ทำรายได้แตะหลายพันล้านบาท
แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่ายอดสั่งซื้อจากต่างประเทศหายไปกว่า 50% แต่ก็ดียังมีกำลังซื้อจากคนไทยที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ทำให้มีรายได้เลี้ยงพนักงานแต่ก็ยังไม่มากนัก โดยขณะนี้ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าลง 70% เพื่อกระตุ้นยอดขายสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ได้เทคโอเวอร์ธุรกิจสวนเสือศรีราชาจากผู้บริหารเดิมมานานถึง 10 ปีแล้ว และในทุกวันนี้ผู้บริหารเดิมได้เช่าพื้นที่ดำเนินการแบบปีต่อปี เรายืนยันว่าจะไม่มีการปิดกิจการแน่นอน เพราะสวนเสือศรีราชาเป็นที่รู้จักมานานกว่า 30 ปี
ซึ่งเมื่อมีกระแสข่าวเกิดขึ้นก็ได้ มีการแจ้งไปยังผู้บริหารเดิม เพื่อให้ยกข้อความออก เพราะอย่างไรเราก็จะทำต่อ แม้วิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นชาวจีนกลายเป็นศูนย์ แต่สัตว์ทุกชนิดที่อยู่ภายในสวนเสือศรีราชา ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยมีทั้งผู้เลี้ยงและอาหารให้กินทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสือที่มีอยู่กว่า 400 ตัว ช้างอีกกว่า 300 ตัว จระเข้ที่อยู่ในฟาร์มนับแสนตัว
รวมทั้งพนักงานทั้งหมดยังคงได้รับการดูแลเพื่อรอโอกาสที่จะได้กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย