รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 5 พ.ค.64 มี “วาระจร” ซึ่งเป็นวาระลับ ในการพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทย เฉพาะวาระนี้วาระเดียวประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่าแจกเอกสารในที่ประชุม หารือเสร็จแล้วเก็บเอกสารทันทีเพื่อป้องกันเอกสารหลุดมายังภายนอก รวมทั้งมีการขอความร่วมมือรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ทุกคนในห้องประชุมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเด็ดขาด
โดยบรรยากาศการประชุมครม.การประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้ ซึ่งเริ่มเวลา 09.00 น. แต่เลิกประชุมเวลา 15.00 น. ซึ่งต่างจากครม.หลายๆครั้งที่จะใช้เวลาประชุมเริ่มจนถึงเลิกประมาณ 13.00 หรือ ไม่เกิน 14.00 น.
ส่วนการประชุม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยใช้ห้องประชุมตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ย้ายห้องประชุมจากเดิมปกติที่ใช้ห้องประชุมที่ตึกบัญชาการ 1 แต่เนื่องจากที่ผ่านมาได้พบแม่บ้านประจำตึกติดเชื้อ โควิด- 19 จึงได้ย้ายสถานที่ประชุมมาที่ตึกภักดีบดินทร์แทน เป็นการประชุมทางไกล ผ่านระบบ Video Conference ให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงประชุมอยู่ที่กระทรวง
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล มีเพียง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานายกรัฐมนตรี เลขา ครม. เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมเท่านั้น
ขณะที่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบออนไลน์เช่นกันและใช้วิธีการแถลงด้วยการส่งเอกสาร ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีการแถลงข่าวผ่าน เพจเฟซบุ๊คไทยคู่ฟ้า
โดยวาระลับ เกิดขึ้นในช่วงก่อนเข้าวาระ ซึ่งกระทรวงการคลังได้นำประเด็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตาม “แผนฟื้นฟูการบินไทย” รายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ มีประเด็นหารือว่า หากการบินไทยจะเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ แล้วขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ โดยขอให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้ให้ในวงเงิน 25,000 ล้านบาท รัฐบาลจะช่วยหรือไม่
จากนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ได้รายงานผลการดำเนินงานของการบินไทย หลังจากที่ได้เปลี่ยนเป็นเอกชน และการบินไทยจะเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการในสัปดาห์หน้า
แต่ท่ามกลางการถกเถียงนานประมาณ 2 ชั่วโมงในวาระนี้ ที่ประชุมครม.มีเสนอโดยสรุปเป็น 3 แนวทาง คือ
1. ให้การฟื้นฟูการบินไทย เป็นไปตามกระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการตามขั้นตอนปกติ
2. เสนอให้การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติแต่ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ
3. เสนอให้การบินไทย กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจประเภท 3 ซึ่งจากเดิมเป็นรัฐวิสาหกิจประเภท 2 โดยรัฐบาลให้สิทธิพิเศษใกล้เคียงของเดิม
“และนอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้กระทรวงการคลังใช้กองทุนวายุภักษ์ไปดำเนินการทางอ้อม แต่ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ โดยให้การบินไทยยังคงสภาพความเป็นเอกชนอยู่ และยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป และต้องไม่ให้กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจที่ใช้รูปแบบที่ให้กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่รัฐบาลจะรับภาระหนี้สินเหมือนในอดีตที่ผ่านมา”
แหล่งข่าว เล่าบรรยากาศอีกว่า ปรากฏว่าในที่ประชุม ครม.มีการถกเถียงและมีความกังวลว่า วันนี้การบินไทยไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว หากรัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือจะเกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลไม่ควรรับการบินไทยเข้ามา และกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนในอดีต เนื่องจากไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว
แต่สุดท้ายแล้ววาระนี้ใช้เวลาพูดคุยนานประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีข้อสรุป และเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นก็เก็บเอกสารทันที โดยไม่ให้ใครนำเอกสารติดตัวออกจากห้องประชุม ด้านพลเอกประยุทธ์ได้กำชับทุกคนว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวออกไปพูดเด็ดขาด เพราะยังไม่ได้ข้อสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :