รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในการประชุมเจ้าหนี้การบินไทยเพื่อลงมติแผนฟื้นฟูการบินไทยในวันนี้ (19 พ.ค.2564 )เวลา 9.30 น. ล่าสุดที่ประชุมเจ้าหนี้ มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทยแล้ว โดยเจ้าหนี้ยอมรับรวม 28 กลุ่มจาก 36 กลุ่ม จำนวนหนี้รวม 1.16 แสนล้านบาท คิดเป็น 91.56%
ทั้งนี้เจ้าหนี้ได้โหวตผ่านแผนฟื้นฟู 3 ฉบับได้แก่ แผนฟื้นฟูของการบินไทย,แผนฟื้นฟูของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย และแผนฟื้นฟูของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยเจ้าหนี้ยอมรับรวม 28 กลุ่มจาก 36 กลุ่ม จำนวนหนี้รวม 1.16 แสนล้านบาท คิดเป็น 91.56%
นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย จำนวน 5 คนได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และนายไกรสร บารมีอวยชัย
สำหรับการลงมติแผนแก้ไขรวม 15 ฉบับ ได้แก่ แผนที่แก้ไขฉบับที่ 1 กรมศุลกากร กรมสรรพสามิตและกรมสรรพากร แผนที่แก้ไขฉบับที่ 2 ธนาคารออมสิน จำกัด (มหาซน) แผนที่แก้ไขฉบับที่ 3 สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด แผนที่แก้ไขฉบับที่ 4 ผู้ทำแผน (การบินไทย) แผนที่แก้ไขฉบับที่ 5 บวิษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด แผนที่แก้ไขฉบับที่ 6 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาซน) แผนที่แก้ไขฉบับที่ 7 บีโอซี เอวิเอชั่น ลิมิเต็ด แผนที่แก้ไขฉบับที่ : เอเอส แอร์ ลีส 82 (ไอร์แลนด์) ลิมิเต็ด แผนที่แก้ไขฉบับที่ 9 โบ โซเรล ลิมิเต็ด พาวัทเนอร์ชิป แผนที่แก้ไขฉบับที่ 10 ธารา ราช เอสเอเอส มิโฮส เอสเอเอส
แผนที่แก้ไขฉบับที่ 11 คีรีรัฐ นิคม ฮายร์ เพอร์เซส ลิมิเต็ด แผนที่แก้ไขฉบับที่ 12 ซิตี้แบงค์ เอ็น เอ. แผนที่แก้ไขฉบับที่ 13 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซสอ.แผนที่แก้ไขฉบับที่ 14 จีอี เอ็นจิ้น เซอร์วิส แผนที่แก้ไขฉบับที่ 15 ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.)
แต่ในการลงมติที่เกิดขึ้นเจ้าหนี้โหวตผ่านฟื้นฟูรวมจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ แผนฟื้นฟูของการบินไทย,แผนฟื้นฟูของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย และแผนฟื้นฟูของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
โดยแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เป็นการแก้ไขหลังจากผู้ทำแผนได้หารือกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลัก ทั้งเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูและเจ้าหนี้ที่มีโอกาสให้การสนับสนุนทางการเงิน เห็นพ้องต้องกันว่า เงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เจ้าหนี้มีความเชื่อมั่นในแผนฟื้นฟู จนเพียงพอที่เจ้าหนี้จะให้การสนับสนุนแผนฟื้นฟูตลอดจนเม็ดเงินได้คือ การที่การบินไทยจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและได้รับสิทธิประโยชน์ในการประกอบธุรกิจการบินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ไม่ด้อยกว่าก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
ผู้ทำแผนจึงได้ขอแก้ไขแผนฟื้นฟูในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ ลำดับการจัดสรรกระแสเงินสด การจัดหาประโยชน์ทรัพย์สินและสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดหาแหล่งเงินทุน โดยการกู้ยืมเงินใหม่เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงการเพิ่มคณะกรรมการกำกับสินเชื่อใหม่ เพื่อให้เจ้าหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีโอกาสพิจารณาให้การสนับสนุนทางการเงินแก้ลูกหนี้ และเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริหารแผนดำเนินการตามแผนและนำสินเชื่อใหม่ใช้ดำเนินธุรกิจอย่างเหมาะสมและรัดกุมตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ส่วนแผนแก้ไขของธนาคารกรุงเทพ ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูในส่วน “ผู้บริหารแผน” โดยได้เสนอรายชื่อผู้บริหารแผนเพิ่ม 2 ราย คือ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายไกรสร บารมีอวยชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการประนอมหนี้และกฎหมาย ธนาคารกรุงเทพ และเป็นอดีตอธิบดีกรมบังคับคดี เข้าเป็นผู้บริหารแผน
สำหรับแผนแก้ไขของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.) ได้ยื่นแก้ไขแผน ดังนี้ การแปลงหนี้เป็นทุน การให้เจ้าหนี้ใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนได้ หลังปีที่ 7 หุ้นละ 2.5452 บาท ครอบคลุมเจ้าหนี้หุ้นกู้ ตั้งแต่กลุ่ม 18-31 ขณะที่เจ้าหนี้กลุ่ม 4-6 จะสามารถใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนได้ เพราะมีหนี้คงเหลือหลังปี 7 จัดการหาประโยชน์ทรัพย์สินทรัพย์ตามการเรียกร้องลูกหนี้ ครอบคลุมและมีความเหมาะสม การแต่งตั้งผู้ทำแผน โดยได้เสนอผู้ทำแผน 3 ราย คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และให้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเจ้าหนี้ ขอให้ผู้บริหารแผนชี้แจงการดำเนินการ ความคืบหน้า การขายทรัพย์สินในแผน เป็นต้น
กระบวนการหลังจากนี้ กรมบังคับคดีจะรวมรวมแผนฟื้นฟูกิจการให้ศาลศาลล้มละลายกลางให้ความเห็นชอบภายในวันที่ 28 พ.ค.นี้ หลังจากนั้นภายใน60 วันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบแผน การบินไทยจะปรับโครงสร้างทุน โดยลดทุนจดทะเบียนจาก 26,989.01 ล้านบาทเหลือ 21,827.72 ล้านบาท ด้วยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกและจำหน่าย 516.13 ล้านหุ้น จากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 218,277.19 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 19,644.95 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่า 196,449.47 ล้านบาท
โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 9,822.47 ล้านหุ้นให้เจ้าหนี้กระทรวงการคลังและหรือผู้รับโอนสิทธิในการซื้อหุ้นในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้นและจัดสรรหุ้นไม่เกิน 9,822.47 ล้านหุ้น ให้เจ้าหนี้สินเชื่อใหม่ภาคเอกชน (เจ้าหนี้สถาบันการเงิน)และหรือผู้รับโอนสิทธิในการซื้อหุ้นในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น
รวมถึงแนวทางการจัดหาแหล่งเงินทุนใหม่ เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจจำนวน 5 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นสินเชื่อใหม่ทั้งหมด มาจาก 2 ส่วนคือ 2.5 หมื่นล้านบาท มาจากการสนับสนุนของภาครัฐ หรือบุคคลใดๆ ที่ภาครัฐและผู้บริหารแผนได้ร่วมกันจัดหา ซึ่งอาจอยู่ในรูปของเงินให้กู้ยืม และ/หรือ การคํ้าประกัน ซึ่งมีเวลาชำระคืนสินเชื่อใหม่ไม่เกิน 6 ปี เริ่มชำระเงินต้นตั้งแต่ปีที่ 3 นับจากวันที่เริ่มเบิกใช้สินเชื่อ ขณะที่ภาครัฐ หรือบุคคลใดๆที่สนับสนุนสินเชื่อใหม่ มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของการบินไทยในราคาหุ้นละ 2.5452 บาท
ส่วนอีก 2.5 หมื่นล้านบาท มาจากการสนับสนุนจากเอกชนและเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งมีเวลาชำระคืนสินเชื่อใหม่ไม่เกิน 6 ปี เริ่มชำระเงินต้นตั้งแต่ปีที่ 3 นับจากวันที่เริ่มเบิกใช้สินเชื่อ ขณะที่ภาครัฐหรือบุคคลใดๆที่สนับสนุนสินเชื่อใหม่ มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของการบินไทยในราคาหุ้นละ 2.5452 บาท
ข่าวเกี่ยวข้อง: