นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท.กล่าวว่าว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.)ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ในวันนี้ (4 มิถุนายน2564) ททท.จะเสนอ Standard operating procedure:SOP หรือแนวทางการปฏิบัติ เพื่อรองรับ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวีคซีนแล้ว จากประเทศเสี่ยงต่ำ-กลาง (ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องประเทศที่พบเชื้อกลายพันธ์) เดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมนี้
โดยใน SOP จะมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างพำนักในภูเก็ต และเมื่อเดินทางออกจากพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต่ำกว่า 14วันและไม่เกิน 6 เดือนเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก(WHO)หรือได้รับการอนุมัติจากประเทศต้นทางขอเข้าประเทศตามขั้นตอนปกติ(COE)
อีกทั้งจากที่มีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขสธ.ล่าสุด ก็จะมีการเสนอศบศ.ปรับโรดแม็บการเปิดประเทศในบางพื้นที่ใหม่ ขยับให้เร็วขึ้น ตามความพร้อมของแต่ละพื้นที่ที่นำเสนอเรื่องขึ้นมา มีทั้งพื้นที่ที่จะเป็น Sealed Routes คู่ขนานไปกับความพร้อมในบางจังหวัดที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนแล้ว ที่จะเริ่มนำร่องในบางพื้นที่ไปพร้อมๆหรือใกล้เคียงกับการเปิดเมืองภูเก็ต
รวมถึงการขอให้พิจารณาปรับเปลี่ยนไทม์ไลน์ใหม่ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในบางจังหวัดให้เร็วขึ้น จากเดิมที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)มีมติไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่อนุมัตินำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวในอีก 4 พื้นที่ต่อจากภูเก็ตที่จะไปเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้
1.พังงา-เขาหลัก เสนอขอไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไ
2.กระบี่ ในพื้นที่เกาะพีพี ไร่เล และเกาะไหง ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้ เสนอกักตัวในรูปแบบ 1+2+4 คืน คือวันที่ 1 กักตัว 100% ในห้องพัก วันที่ 2-3 สามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องพักในบริเวณโรงแรมได้ วันที่ 4-7 สามารถท่องเที่ยวได้ตามเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ (Sealed Routes) โดยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 4-5
อีกทั้งในเดือน ส.ค.นี้กระบี่ก็จะขอขยายไปยังพื้นที่เกาะลันตา อ่าวนาง และทับแขก เสนอกักตัวในรูปแบบ 1+2+4 คืนเช่นกัน ก่อนที่ทั้งจังหวัดกระบี่จะเริ่มไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
3.เกาะสมุย-พะงัน-เต่า ใน จ.สุราษฎร์ธานี ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้ เสนอให้จำกัดพื้นที่และท่องเที่ยวระบบปิดในรูปแบบ 0+3+4 คืน โดยวันที่ 0 ตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 และพักผ่อนในห้องพักเท่านั้น จากนั้นวันที่ 1-3 สามารถใช้บริการและทำกิจกรรมต่างๆ นอกห้องพักในบริเวณโรงแรมได้ วันที่ 4-7 ท่องเที่ยวได้ใน อ.สมุย ตามเส้นทางและโปรแกรมที่กำหนดไว้ และตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 และวันที่ 8-14 ท่องเที่ยวได้ภายในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า หากออกนอกพื้นที่จะต้องขออนุญาตศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ในพื้นที่เท่านั้น
4.เชียงใหม่ เสนอให้กักตัวนักท่องเที่ยวในโรงแรมเป็นเวลา 7 คืน รูปแบบ 0+7 คืน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ โดยสามารถออกนอกห้องพักและออกไปทำกิจกรรมในเส้นทางที่กำหนดได้ ภายหลังการพำนักในพื้นที่ 7 คืน สามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ในไทยได้ ก่อนจะเข้าสู่ไทม์ไลน์ไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ส่วนจังหวัดชลบุรี เสนอขอไม่กักตัวนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ขณะที่อีก4 พื้นที่ใหม่ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน และบุรีรัมย์ ซึ่งผ่านการเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็เตรียมเสนอให้ ศบศ.และ ศบค.พิจารณาต่อไป โดยทั้ง 4 พื้นที่ดังกล่าวจะไม่กักตัวนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากศบศ.เห็นชอบ ก็จะนำเสนอศบค.และรายงานครม. เพื่อออกเป็นราชกิจจานุเบกษาเป็นอันดับต่อไป”นายศิริปกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ SOP ของภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่จะเสนอศบศ.จะกำหนดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต่ำกว่า 14วันและไม่เกิน 6 เดือนเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก(WHO)หรือได้รับการอนุมัติจากประเทศต้นทางขอเข้าประเทศตามขั้นตอนปกติ(COE) เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เดินทางมากับผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบโดส ไม่ต้องตรวจ ส่วนเด็กอายุ6-18 ปีต้องได้รับการตรวจเมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบิน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มี Social Contact (รอผลตรวจ 15 นาที)
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะเข้าพักในที่พักที่ผ่านมาตรฐานSHA+ในช่วง 7 คืนแรกในภูเก็ต ก่อนเปลี่ยนที่พัก หรือเดินทางไปจังหวัดอื่น แต่จะต้องได้รับการตรวจPCR test เป็นลบ ในวันที่5เท่านั้น จึงจะเดินทางไปนอกเขตจังหวัดภูเก็ตได้ โดยแนบผลตรวจเป็นหลักฐาน
ในช่วง0-7 วันเข้าพักและท่องเที่ยวในเขตจังหวัดภูเก็ต และเกาะในเขตจังหวัดเท่านั้น เช่นเกาะมะพร้าว เกาะราชา เกาะเฮ เกาะนาคา เกาะไม้ท่อน เกาะไข่ เป็นต้น ถ้านักท่องเที่ยวมาพักน้อยกว่า 7 คืนแล้วเดินทางออกนอกประเทศ สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องมี Minimum stay และนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย PCR test เป็นต้น
ข่าวเกี่ยวข้อง: