นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันนี้(18 มิถุนายน2564)ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบในหลักการเปิดพื้นที่นำร่องนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต (ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์) และจังหวัดสุราษฏร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน) รับ นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดส
การนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วใน 2 พื้นที่นี้จะแตกต่างกัน โดยนำร่องจาก “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ในวันที่ 1กรกฏา คมนี้ก่อน ส่วนพื้นที่เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน จะเริ่มในวันที่ 15 กรกฏาคมนี้
โดยในส่วนของ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องพำนักอยู่ในประเทศความเสี่ยงต่ำและปานกลาง อย่างน้อย 21 วันก่อนเดินทางเข้าภูเก็ต สามารถเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตกี่คืนก็ได้ ไม่ต้องกักตัว แต่เมื่อครบกำหนดที่จองไว้ก็ต้องเดินทางออกราชอาณาจักรไทย ซึ่งในช่วงแรกสามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะต่างๆในภูเก็ตได้ เช่น เกาะเฮ เกาะไม้ท่อน แต่หลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปเที่ยวในพื้นที่ Sealed routes ที่กำหนดไว้ได้ ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล ของจังหวัดกระบี่ , เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา แต่หากพักในภูเก็ตไม่เกิน 14 คืน แต่ถ้าพักในภูเก็ตเกิน 14 คืน จะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนในประเทศไทยก็ได้
ส่วนคนไทย ถ้ามาจากประเทศเสียงต่ำและเสี่ยงกลางสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ตได้ ส่วนคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยก็สามารถเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต หากฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยซิโนแวค ต้องฉีด 2 เข็ม และแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม
ส่วนการเปิดพื้นที่เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน จะแตกต่างกับภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว คืนที่ 1-3 นักท่องเที่ยวสามารถออกนอกห้องพักและได้รับบริการต่างๆเฉพาะในบริเวณโรงแรมที่พักเท่านั้น ส่วนคืนที่4-7 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนดเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุย เท่านั้น และคืนที่8-14 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวระหว่างระหว่างเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่าได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เหมือนกันคือนักท่องเที่ยวต้องอยู่ที่เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน อย่างน้อย 14 คืนจะไปจังหวัดอื่นๆในประเทศไทย ให้แสดงหลักฐานยืนยันว่าได้พำนักอย่างน้อย 14 คืน และมีหลักฐานการควบคุมโรคตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากศบค.มีมติเห็นชอบแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวจะนำเรื่องเสนอครม.พิจารณาในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ เพื่อออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ข่าวเกี่ยวข้อง: