นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่าการเปิดประเทศภายใน 120 วันรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ตามเป้าหมายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ ที่ภูเก็ต จากมาตรการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
ต่อเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ในวันนี้ (วันที่ 18 มิถุนายน2564)ว่า “ที่บอกการเปิดประเทศภายใน 120 วันที่แถลงออกไป ที่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วมาเที่ยวได้ทั่วประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัวนั้น หมายความว่าใน 77 จังหวัดของไทย จังหวัดไหนพร้อมก็เปิดได้ ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าเปิดเฉพาะจังหวัดที่มีการติดเชื้อน้อย
เช่นกรุงเทพฯพอถึงเวลานั้น ในเดือนตุลาคม ถ้ากรุงเทพฯยังมีผู้ติดเชื้อ 500-600 คน ก็ยังไม่เปิด ต้องไปดูว่าจะเปิดได้การติดเชื้อต้องไม่เกิน 20-30 คน จึงจะเปิดได้”
การเปิดประเทศ นอกจากเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยต่อชีวิตให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ไม่มีความหวัง เกิดแสงสว่างปลายอุโมงค์ มีทิศทางเปิดประเทศที่แน่นอน แต่ยังต้องคำนึงถึงความพร้อมด้านความปลอดภัย และสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆด้วย
สิ่งแรกที่นายกคำนึง คือ คนไทยที่อยู่ในไทย จะต้องได้รับการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ได้รับวัคซีนไปแล้ว แต่ทุกอย่างยังต้องปฏิบัติตามศคบ.กำหนด รวมถึงปฎิบัติตามมาตราการ D-M-H-T-T-Aเราคนไทย เราต้องกันดูแลตัวเอง ปัดกวาดบ้านเราให้สะอาด ก่อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
การที่นายกบอกเตรียมพร้อมเปิด ผมเดาใจท่านนายกมั่นใจโดยมองถึงความพร้อมอย่างแรก คือ เรื่องวัคซีน ถ้าไม่มีวัคซีน นายกคงไม่ประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งอย่างน้อยคนไทย 50 ล้านคน จะได้รับการฉีดวัคซีนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้อย่างน้อยโดสแรก 50 ล้านคน
คนที่จะบอกได้ว่าจังหวัดไหนพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆที่ดูความพร้อมเรื่องของการฉีดวัคซีนในพื้นที่ รวมไปถึงการเห็นชอบจากคนในพื้นที่ด้วย ถ้าพร้อมเปิด ทางกระทรวงการท่องเที่ยวก็จะเข้าไปดูเรื่องของมาตรฐานต่างๆ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงในพื้นที่ จากนั้นจึงจะนำเรื่องไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าผ่านก็จึงจะเปิดการท่องเที่ยวได้
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า จากนโยบายการเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน ทำให้แผนการดำเนินงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมี 2 แผน ได้แก่ 1.แผนแรก การเปิดประเทศตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องไปดูเรื่องความพร้อมใน 77 จังหวัด ที่ถ้ามียอดติดเชื้อในพื้นที่มาก ก็คงเปิดไม่ได้ แต่ถ้ายอดติดเชื้อในพื้นที่น้อย ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยททท.ต้องไปปรับแผนตามที่นายกตั้งเป้าหมายไว้
2.แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยไม่ต้องกักตัวใน 10 พื้นที่ท่องเที่ยว ได้แก่ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, เกาะสมุย, เชียงใหม่, พัทยา, กรุงเทพฯ, ชะอำ, หัวหินและบุรีรัมย์ ซึ่งตามแผนเดิม ภูเก็ต จะนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ส่วนอีก 9 พื้นที่เหลือ เดิมจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่นายกรัฐมนตรีมองว่าพื้นที่ไหนพร้อมก็ให้เปิดได้ก่อน
ดังนั้นททท.จึงได้ไปปรับแผนใหม่ REOPEN THAILAND การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยไม่กักตัวในระยะแรก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า REOPEN THAILAND การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยไม่กักตัวในระยะแรก จะเริ่มจากการเปิดเมือง (พื้นที่นำร่อง)ให้แล้วเสร็จในไตรมาส3 ที่จะเน้นไปยังพื้นที่ที่เป็นเกาะ และพื้นที่ Sealed routes โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. พื้นที่เกาะ จะนำร่องด้วย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เริ่ม 1 กรกฏาคม2564 จากนั้นจะเป็นพื้นที่ Sealed routes เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน ที่จะเริ่มในวันที่ 15 กรกฏาคม2564
โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางไปเกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในห้องพักก่อน เพื่อรอผลการตรวจโควิด-19 ถ้าผลตรวจเป็นลบก็จะออกจากห้องพักได้ คืนที่ 1-3 นักท่องเที่ยวสามารถออกนอกห้องพักและได้รับบริการต่างๆเฉพาะในบริเวณโรงแรมที่พักเท่านั้น ส่วนคืนที่4-7 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนดเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุย เท่านั้น และคืนที่8-14 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวระหว่างระหว่างเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่าได้
2. พื้นที่ Extension คือ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล จ.กระบี่ และ เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา จะเป็นพื้นที่ Sealed routes ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในเดือนสิงหาคม2564
3.พื้นที่ Sealed Approach (Areas&Routes) หรือพื้นที่ซึ่งอยู่บนแผ่นดิน คือ อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พื้นที่ พัทยา อำเภอบางละมุง สัตหีบ (พัทยา) และพื้นที่อำเภอเมือง สนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในเดือนกันยายน2564
ขณะที่กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาส 4 ที่จะเริ่มในเดือนตุลาคม2564
ข่าวเกี่ยวข้อง: