เปิดเงื่อนไข“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”ชงครม.วันนี้นำร่อง"เปิดประเทศ"

22 มิ.ย. 2564 | 01:30 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2564 | 02:13 น.

เปิดเงื่อนไข “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”ชงครม.วันนี้นำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ชงมาตรการการเดินทางเข้าภูเก็ตทั้งจากในประเทศ-ต่างประเทศ พร้อมเผยแผนบริหารความเสี่ยง เปิดเงื่อนไขกรณีคุมไม่อยู่ต้องยกเลิกโครงการ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ (22 มิถุนายน 2564) จะมีวาระการพิจารณาเรื่อง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์นำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้  โดยจะมีเรื่องของมาตรการเข้าจังหวัดภูเก็ต สำหรับการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตจากภายในประเทศและจากต่างประเทศ ซึ่งรอการพิจารณาอนุมัติจากครม. ก่อนจะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

ล่าสุดศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต ได้เผยแพร่สาระสำคัญของร่างมาตรการเข้าจังหวัดภูเก็ต แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การเดินทางเข้าภูเก็ตจากต่างประเทศ และ การเดินทางเข้าภูเก็ตจากในประเทศ  ได้แก่

1. (ร่าง) การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตจากต่างประเทศ (ตามราชกิจจานุเบกษา) มีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

1.1 หากเดินทางตามมาตรการกักตัว ต้องเข้ากักตัวที่โรงแรมกักตัวทางเลือก (Alternate Quarantine) หรือ ALQ เป็นระยะเวลา 14 คืน โดยห้ามออกจากห้องพักเด็ดขาด

1.2 หากเดินทางเข้าตามมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) จะมีเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยว ได้แก่

- กำหนดประเทศของนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ และปานกลาง (ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เลือกบางประเทศ

- คนต่างชาติต้องพำนักอยู่ในประเทศความเสี่ยงต่ำ และปานกลาง อย่างน้อย 21 วันก่อนเดินทางเข้าพื้นที่

- คนไทย และคนต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย ที่เดินทางกลับมาจากกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำและปานกลาง

- การได้รับวัคซีนที่รับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) ครบกำหนด ตามประเภทวัคซีนอย่างน้อย 14 วัน และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Vaccine Certifiacte) ถูกต้อง

- กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มากับผู้รับวัคซีน ให้เดินทางพร้อมผู้ปกครองได้

- กรณีเคยติดเชื้อ ต้องได้รับวัคซีนครบตามประเภทของวัคซีน อย่างน้อย 14 วัน

- มีผลการตรวจโควิด-19 (COVID Free) RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง

- มีประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมโควิด-19 วงเงินคุ้มครอง ไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ก่อนเดินทางมาถึงภูเก็ต

(1) ยื่นเอกสาร-รับใบอนุญาต เดินทางเข้าประเทศ (Certificate of Entry หรือ COE)

(2) ยืนยันผลการอนุมัติ พร้อมกับเอกสาร COE

(3) ลงทะเบียนผ่านทาง www.entrythailand.go.th

เมื่อเดินทางมาถึงภูเก็ต

(4) ติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ)

(5) เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ณ สนามบินภูเก็ต

(6) เดินทางเข้าที่พักมาตรฐาน SHA PLUS ด้วยพาหนะที่กำหนด

(7) รอผลตรวจในห้องพัก เมื่อไม่พบเชื้อ สามารถออกจากห้องพักและเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้

ระหว่างพำนักในภูเก็ต

(8) พำนักในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน กรณีอยู่น้อยกว่า 14 คืน ต้องเป็นการเดินทางด้วยเที่ยวบินตรงออกนอกราชอาณาจักร จากจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น

(9) ตรวจ RT-PCR ตามระยะเวลาที่พำนัก (ในวันที่ 6-7 และ 12-13)

(10) ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A

- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

- สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา

- ล้างมือบ่อยๆ

- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย

- ตรวจหาเชื้อโควิด 19

- ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ

ก่อนเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต

(11) จากจังหวัดภูเก็ตไปจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยให้แสดงหลักฐานยืนยันได้ว่า ได้พำนักในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน และมีหลักฐานการควบคุมโรคตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด

หลังจากนั้น สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ภายในประเทศไทย โดยปฏิบัติตามมาตรการเข้าจังหวัดปลายทาง

2. (ร่าง) การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตจากภายในประเทศ (ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต) มีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

(1) ต้องเป็นผู้ได้รับการฉีดวัคซีนมาครบโดสแล้ว (ต้องได้รับการฉีดครบโดส ตามข้อกำหนดของแต่ละวัคซีน ยกเว้น Astra Zeneca หลังฉีดเข็ม 1 แล้ว 14 วันสามารถเข้าได้)

(2) ผลตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test อายุไม่เกิน 7 วันก่อนการเดินทาง

(3) หากเป็นผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 และได้รับการรักษาหายมาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องมีหนังสือรับรองการได้รับการรักษา (ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 1-2)

(4) หากไม่มีข้อ 1-3 ข้อใดข้อหนึ่ง ต้องกักตัว 14 วันในที่พัก

มาตรการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

หมายเหตุ :

1. ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 1-3 (ได้รับการยกเว้นมาตรการ)

2. เดินทางมาทางเครื่องบิน ไม่สามารถเลือกกักตัว 14 วันได้ (ต้องปฏิบัติตามข้อ 1-3 เท่านั้น)

3.สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ภายในจังหวัดภูเก็ต และไม่จำเป็นต้องอยู่ภูเก็ตถึง 14 วัน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค.นี้ มี 18 สายการบิน ยืนยันทำการบินระหว่างประเทศเข้าภูเก็ต กว่า 200 เที่ยวบิน เทียบช่วงปกติมีจำนวนเที่ยวบินเข้ามา 500 เที่ยวบิน เท่ากับฟื้นตัวกลับมาเกือบ 50% อีกทั้งททท.ยังได้รับการยืนยันยอดจองจากนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล เช่น ยุโรป และอเมริกา มียอดจองเข้ามาแล้ว 6,789 คนในเดือน ก.ค.  ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้อย่างเอเชีย

เนื่องจากพฤติกรรมการจองเป็นแบบกระชั้นชิด คาดว่าจะมียอดจองจากตลาดระยะใกล้ 9,000-10,000 คน ในเดือน ก.ค. ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนหวังจะได้นักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมาเข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ด้วย

อย่างไรก็ตามททท.ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางสู่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตลอดไตรมาส 3 ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. ราว 1 แสนคน ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 1.29 แสนคน เนื่องจากเงื่อนไขการขยายระยะเวลาให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องอยู่เที่ยวภายในภูเก็ต 14 คืน ก่อนออกเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ในไทย

ขณะที่ยอดจอง เดือน ส.ค. ขณะนี้ ยังไม่ค่อยเข้ามาแรงมาก โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จึงต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ภายในเดือนแรก เพื่อดึงดูดสายการบินและเที่ยวบินให้ไหลสู่ภูเก็ตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไม่เพียงแต่มาตรการด้านการตลาดเท่านั้น สิ่งที่ต้องเดินควบคู่กันไปคู่มาตรการการบริหารความเสี่ยงการแพร่ระบาดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะมีมาตรการตั้งแต่ก่อนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา และเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าที่ภูเก็ต ก็มีตรวจหาคัดกรองก่อนแล้ว 2 ครั้ง ถึงจะไปยังจังหวัดอื่นได้เมื่อพักอยู่ในภูเก็ตเกิน 14 คืนขึ้นไป

รวมทั้งยังกำหนดชัดว่าหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 ในภูเก็ต จนพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 90 คนต่อสัปดาห์ มีการกระจายของเชื้อโรคใน 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล มีการระบาดมากว่า 3 คลัสเตอร์ และการระบาดของโรคที่หาสาเหตุเชื่อมโยงไม่ได้ รวมทั้งมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 80 ก็อาจจะต้องพิจารณายกเลิกแผนการดำเนินงาน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

ข่าวเกี่ยวข้อง: