ผงะ!!! แรงงานไทยสูญพันธุ์  ถูกต่างด้าวกลืนเรียบ

 

 

ปัจจุบันในประเทศไทยมีแรงงานไทยที่อยู่ในระบบประกันสังคมราว 11 ล้านคนเศษ  และมีแรงงานประกันสังคมแบบสมัครใจเช่น คนที่เกษียณอายุแล้ว หรือไม่มีนายจ้างแต่ประสงค์จะทำประกันสังคมต่อไปอีกประมาณ 3 ล้านคน และมีแรงงานไทยในภาคการเกษตรที่เกือบทั้งหมดนี้เป็นแรงงานนอกระบบอีกจำนวน 11-12 ล้านคน  และเป็นแรงงานไทยนอกระบบอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เช่น เด็กทำออนไลน์ แม่บ้าน ลูกจ้าง  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แม่ค้าพ่อค้าทั่วไป มอเตอร์ไซด์รับจ้าง แท็กซี่ ฯลฯ รวมอีกราว 8-10 ล้านคน

นอกจากนั้นก็จะเป็นแรงงานต่างด้าวในระบบที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายอีกประมาณ 3.2 ล้านคน ปริมาณคนจะขึ้น-ลงตามเวลาที่ต่างกัน  และยังมีแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายอยู่ในประเทศไทยอีกราว 800,000 ถึง 1 ล้านคนในอุตสาหกรรมเกษตร ประมง ปศุสัตว์ เป็นหลัก

ที่เกริ่นภาพแรงงานในประเทศไทยไว้แบบนี้ จะชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันบ้านเรามีสถิติการใช้แรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นมาก อย่างน้อยตัวเลขที่เห็นรวมกันทั้งเข้ามาถูกต้องและไม่ถูกต้องก็แตะ4 ล้านคนขึ้นไป  มีคำถามว่าทำไมแรงงานต่างด้าวสนใจเข้ามาทำงานในประเทศไทยหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ 

ประเด็นหลักน่าจะมาจากแรงบันดาลใจที่การจ้างงานในประเทศไทยมีค่าแรงสูงกว่าประเทศตัวเองโดยเฉพาะ ในเมียนมามีค่าแรงงานขั้นต่ำต่อวันตั้งแต่ 120-150 บาท  เวียดนาม 156-173 บาทต่อวัน กัมพูชา 162 บาทต่อวัน  สปป.ลาว 125 บาทต่อวัน (ดูกราฟิก)  อีกทั้งสวัสดิการต่างๆที่ได้รับไม่น้อยหน้าแรงงานไทย

ที่น่าจับตาคือ...เวลานี้บรรดาผู้ประกอบการจากภาคการผลิต ต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า แรงงานไทยเริ่มหายากขึ้นทุกที เพราะไม่ชอบทำงานจับกัง งานก่อสร้างงานแม่บ้าน  กลายเป็นว่าในเวลานี้หลายพื้นที่ที่มีงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่บางแห่งแทบจะใช้แรงงานนานาชาติในไซด์งานนั้นๆ กันเลยทีเดียว  หรือตามบ้านที่อยู่อาศัยก็จะมีแม่บ้านเป็นต่างด้าวทำความสะอาดบ้าน เช่นเดียวกับคนเสิร์ฟอาหารตามร้านรวงทั่วไปก็เป็นแรงงานต่างด้าวแทบทั้งสิ้น  ที่ซ้ำร้ายไปยิ่งกว่านั้นขณะนี้แรงงานต่างด้าวพยายามศึกษาหาความรู้เพื่อให้พูดภาษาไทยได้ในขณะที่ไทยไม่อยากเรียนรู้ที่จะเรียนภาษาต่างด้าว  และเวลานี้แรงงานต่างด้าวจำนวนไม่น้อยที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในประเทศไทยเรียนรู้การทำอาหารไทย ซึ่งบางแห่งได้รับเสียงตอบรับในรสชาติว่าอร่อยโดยฝีมือคนต่างด้าว  “ตอนนี้ส่วนใหญ่เหมือนเขารู้เราแต่เราไม่รู้เขา”ผู้ประกอบการร้านอาหารแห่งหนึ่งสะท้อนภาพให้เห็น

สอดคล้องกับที่นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา กล่าวว่า สิ่งแรกคือผลตอบแทนที่แรงงานต่างด้าวได้รับดีและมีสวัสดิการดีกว่าทำงานในประเทศตัวเอง  จะเห็นว่าค่าแรงในเมียนมา ถูกกว่าไทยถึง 3 เท่า โดยมีค่าแรงขั้นต่ำ 90 บาทต่อวัน เทียบกับแรงงานขั้นต่ำของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 325 บาทต่อวัน  นอกจากนี้สวัสดิการได้เท่าเทียมกับแรงงานไทย

เวลานี้คนต่างด้าวมีความรู้สึกว่ามาทำงานในประเทศไทยแล้วเท่ห์ และจะเห็นว่าในกลุ่มแรงงานที่จ้างแรงงานไร้ฝีมือ (Unskilled Labor) ใน 1 โรงงานจะพบว่ามีแรงงานต่างด้าวประมาณ 50-60% ทำงานอยู่ และมีแรงงานจำนวนมากไม่สนใจทำงานแบบค่าจ้างรายวันอีกต่อไป

“มีเสียงบ่นว่าคนงานในกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือหายากยิ่งขึ้นแทบจะในทุกสาขาวิชาชีพ โดยเฉพาะงานก่อสร้างยิ่งขาดแคลนหนัก ชี้ชัดว่าคนไทยไม่ชอบทำงานลำบาก ก็น่ากังวลว่าแรงงานไทยจะหลงทิศหลงทาง ไม่ทำงานติดดิน  ก็เป็นประเด็นที่น่าจับตามองต่อไปเช่นกัน”

ด้านนายธนิต โสรัตน์  รองประธานสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการในกิจการโรงแรมมีปัญหามาร้องเรียนให้ข้อมูลว่า มีต่างด้าวขอให้กระทรวงแรงงานเปิดเสรีอาชีพแม่บ้านเนื่องจากขณะนี้ไทยยังถือว่า”แม่บ้าน”เป็นอาชีพสงวนอยู่ เช่นเดียวกับอาชีพขายของตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป

นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก(1994) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตถุงหูหิ้วตรา “หมากรุก” และผู้ผลิตฟิลม์ยืดห่อหุ้มอาหาร “Vow Wrap ” กล่าว ว่า ที่น่าจับตาและน่าเป็นห่วงมากในระยะต่อไปคือเรื่องความมั่นคงด้านแรงงาน  จะเป็นความน่ากลัวในระยะกลาง 2-3 ปีนับจากนี้ไป เพราะทุกวันนี้อาศัยแรงงานต่างด้าวมากถือเป็นความเสี่ยงของประเทศไทย เพราะถ้าเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านบูมแรงงานไหลกลับประเทศไปหมด ฐานการผลิตไทยจะทำอย่างไร ความกังวลนี้หมายถึงในระยะยาวข้างหน้า 

สอดคล้องกับที่แหล่งข่าวจากกลุ่มนายจ้างตั้งข้อสังเกตว่าแรงงานต่างด้าวจะมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น ทั้งด้านข้อเรียกร้องการขึ้นเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นนายจ้างอาจจะเป็นฝ่ายถูกบีบ เพราะไม่มีแรงงานทำงาน

ต้องยอมรับว่าปัญหาแรงงานในประเทศไทยกำลังเผชิญศึกหลายเด้ง ทั้งกำลังเข้าสู่ช่วงที่แรงงานต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่ทำ ให้มีการนำ เทคโนโลยีก้าวหน้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์อัจฉริยะ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตไปสู่ดิจิทัลลีนออโตเมชั่น ซึ่งจะทำให้การจ้างงานลดลง ในขณะแรงงานไทยต้องรีบยกระดับ

ถามว่าแรงงานไทยหายไปไหนกันหมด!!! แรงงานไทยไม่ค่อยทำงานตามร้านอาหารเพราะเป็นงานที่ค่าแรงงานน้อยและไม่มั่นคง  และไม่ชอบทำงานก่อสร้างเพราะใช้แรงมาก เป็นงานหนัก ช่วงหลังจะเห็นว่าแรงงานไทยจำนวนมากจะกระจุกตัวอยู่ตามโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอยู่ในห้องแอร์  หรือทำงานที่มีค่าแรงสูงขึ้น

 

 

 นอกจากนี้เด็กรุ่นใหม่ก็สนใจที่จะไปทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้นทั้งธุรกิจค้าออนไลน์ ไปเป็นผู้ประกอบการใหม่ในกลุ่มเอสเอ็มอี  ทำให้บางอาชีพกำลังจะกลายเป็นอาชีพเสี่ยงเพราะแรงงานไทยสูญพันธุ์  ถูกต่างด้าวกลืน คนไทยไม่ทำแต่ต่างชาติพร้อมทำ!!! นับเป็นอีกความเสี่ยงของรัฐบาล  และของนายจ้างในอนาคต ควรต้องรีบให้ความสำคัญก่อนในลำดับต้นๆ!!!

 

คอลัมน์ : Let Me Think
โดย       : TATA007

 

เปิดความเสี่ยงตลาดแรงงานไทย2563!!!