ปรับครม.
อย่าให้ร้อง “ยี้”
นาทีนี้...กระแสการเมืองที่สังคมเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หนีไม่พ้นการปรับ ครม. “ประยุทธ์ 2/2” หลัง “4 กุมาร” จำใจไขก๊อกพ้นจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่ร่วมปลุกปล้ำมา
ปรากฏท่าทีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ให้จับตาดูตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” จะมีการปรับ ครม.
“ปรับครม. เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ผมจะเป็นคนปรับเอง” เมื่อถูกสื่อถามจะปรับใหญ่หรือจะปรับเฉพาะที่จำเป็น ทั้งระบุอีกว่า “ใครที่เขาทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำงานต่อ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานดีทั้งหมด ผมไม่ได้ว่าใครไม่ดี”
นายกฯ ขยายความชัดเจนว่า “ถ้าปรับก็ต้องปรับครม.เศรษฐกิจด้วย เพราะครม.เศรษฐกิจ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง” ...นั่นย่อมหมายความว่า ทีม “4 กุมาร” ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็หนีไม่รอดอาจถูกปรับเปลี่ยนเช่นกัน
“การยอมรับคนที่จะมาเป็น ครม.ใหม่เป็นเรื่องยากมากพอสมควร ต้องไปดูมิติอื่นๆ ร่วมด้วย การยอมรับไม่ยอมรับก็เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นเชื่อถือ บางส่วนที่คนอยากให้เข้ามาทำงาน เขาก็ไม่อยากจะมา แต่เราก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด ทุกกระทรวง ยืนยันว่า ยังไม่ได้ทาบใครเลย” นายกฯ ระบุ
แกะรอยจากคำพูดดังกล่าวของ “บิ๊กตู่” ไม่แปลกที่ล่าสุด 10 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกฯสั่งยกเลิกประชุม ครม.เศรษฐกิจ กะทันหัน เปลี่ยนเป็นการประชุมร่วมกับทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกฯ โฟกัสประเด็นแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 แต่ในใจลึกๆ “บิ๊กตู่” อาจกำลังเก็บข้อมูลเพื่อเฟ้นหาคนดี มีฝีมือ ที่จะมารับไม้ต่อเพื่อให้นโยบายเศรษฐกิจไม่สะดุด
ต้องลุ้นอีกไม่นาน... ประชาชนคนไทยจะได้ยลโฉมหน้า “ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่” ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สำคัญที่การปรับเปลี่ยนใดๆ ก็ตาม ขอฝาก “นายกฯ” คำนึกถึงความรู้สึกของประชาชน ไม่นำบุคคลที่มี “ภาพพจน์แย่” มาร่วมคณะรัฐมนตรี เพราะจะก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น-ศรัทธาต่อรัฐบาล ทั้งต่อประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน
ถ้าปรับครม.แล้ว เกิดการร้อง “ยี้” อาจจะมีปัญหาต่อความนิยมของรัฐบาล และความร่วมไม้ร่วมมือของประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนต่าง ๆ ก็จะตามมาได้...