ความสำคัญของโรงพยาบาลสนาม

          สองวันมานี้ ข่าวเรื่อง COVID-19 ที่ตลาดกุ้งที่สมุทรสาคร ทำให้เกิดการระบาดไปถึง 38 จังหวัดแล้ว อีกทั้งมีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 6,123 ราย(ข้อมูลเช้าวันที่ 27 ธันวาคม เวลา 7:00 น.) ผมเองก็เกิดอาการวิตกจริตขึ้นมาทันที ทำให้หันกลับไปคิดถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมา เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตัวเลขก็เริ่มจากสามร้อยกว่าราย มาถึงวันนี้ 121,280 รายเข้าไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมีความเชื่อมั่นในทีมงานแพทย์พยาบาลและสาธารณสุขพื้นฐานของเรา และความเข้าใจในเรื่องของเจ้าวายร้ายผีน้อยCOVID-19 ของชาวไทยเรา เมื่อเปรียบเทียบกับชาวเมียนมาแล้ว เราดีกว่าเขาเยอะ เพียงแต่เราต้องร่วมมือกัน เชื่อว่าเราจะไม่เกิดอาการเลวร้ายอย่างที่ประเทศเมียนมาเจอในขณะนี้แน่นอนครับ

          ผมอยากเล่าถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมา เมื่อเกิดเรื่องโรคระบาดระลอกสองใหม่ๆ ทางการของประเทศจีน เขาได้ส่งเวชภัณฑ์และยารักษาโรคเข้าไปช่วยเหลือประเทศเมียนมาอย่างเร่งด่วน อาจจะเพราะประเทศจีนเขาได้ไปลงทุนในประเทศเมียนมาเยอะมาก หากประเทศเมียนมาแตก เชื่อว่าทางประเทศจีนจะเสียหายมิใช่น้อย ดังนั้นเขาจึงกระโดดเข้าไปเร็วกว่าเพื่อนบ้านประเทศอื่นๆ สิ่งหนึ่งที่เขานำเอาเข้าไปช่วยคือ “โรงพยาบาลสนาม” ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญของชาวมหาชัยนี่แหละครับ

          ในตอนนั้น ประเทศจีนเขามอบให้ทางการเมียนมา 6 หลัง มีอยู่บางส่วนไปติดตั้งไว้ที่สนามกีฬากลางตูวันน่า ใจกลางเมืองย่างกุ้งเลยครับ เนื่องจากประชาชนชาวเมียนมา ไม่ได้มีประชาธิปไตยจ๋าเหมือนบ้านเรา เขาจึงไม่ได้ออกมาคัดค้านเหมือนที่เกิดขึ้นในมหาชัย ที่กว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกมายืนยันนั่งยันว่าปลอดภัย ก็เหนื่อยกันไปตามๆกัน และที่เมืองย่างกุ้งเขายังมีเอกชนที่เป็นคหบดีผู้มีอันจะกิน ยังได้นำเอาอาคารแสดงสินค้าออกมาให้รัฐบาลเมียนมายืมไปใช้งาน เพื่อทำให้เป็นโรงพยาบาลสนามด้วยซ้ำไปครับ นี่คือความต่างระหว่างไทยกับเมียนมา 

          อีกทั้งพอผมเริ่มทำโครงการโรงพยาบาลสนามในโครงการ “มิตรภาพปันน้ำใจสู้ภัยโควิด ประเทศเมียนมา” ขึ้นมาหนึ่งหลังเพื่อบริจาคให้ประเทศเมียนมา ผมได้ปรึกษาหารือทีมคณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย จึงได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ว่าโรงพยาบาลสนามไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆเข้าใจครับ เพราะการสร้างโรงพยาบาลสนามนั้น เราจะแบ่งพื้นที่ห้องไว้ขนาดห้องกว้างไม่เกิน 6x12 เมตร หรือประมาณ 72 ตารางเมตร หนึ่งห้องจะบรรจุเตียงผู้ป่วยไว้ 10 เตียง  และเขาได้มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศความดันต่ำไว้ทุกห้อง ดังนั้นอากาศที่อยู่ในห้องก่อนที่จะถูกปล่อยออกมาสู่ภายนอก จะมีการฟอกให้เป็นอากาศบริสุทธิเสียก่อนที่จะปล่อยออกมา เจ้าเครื่องฟอกอากาศนี้ จึงเป็นหัวใจสำคัญของห้องพักผู้ป่วย เพราะถ้าหากอากาศภายในห้องไม่ได้มีการทำให้สะอาดก่อนปล่อยออกมา เชื้อที่ติดกับตัวผู้ป่วยที่อยู่รวมๆกัน จะสามารถกระจายออกไปนอกห้องได้เช่นกันครับ
     

          การลงทุนสร้างโรงพยบาลสนามที่ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาได้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร อันประกอบด้วยบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง บริษัทอิชิตัน บริษัทธนาธร คอนสตรัคชั่น และบริษัทส.ขอนแก่น ได้ร่วมกันบริจาคเงินให้นี้ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการคัดกรองผู้ป่วยให้มาอยู่ในที่ๆเหมาะสม เพราะหากให้เขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลทั่วๆไป หากการจัดการไม่ดีพอของแพทย์และพยาบาลชาวเมียนมา โอกาสที่จะกระจายไปสู่ผู้ป่วยอื่นๆในโรงพยาบาล  ที่ร่างกายอ่อนแอเป็นทุนอยู่แล้ว ก็จะง่ายยิ่งขึ้นนั่นเองครับ ในส่วนของต้นทุนค่าก่อสร้างทั้งหมด เจ้าเครื่องฟอกอากาศความดันต่ำนี้ ก็เกือบจะครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดแล้วครับ จะเห็นว่าทำไมเราถึงต้องมีเครื่องมือตัวนี้นั่นเอง

​​​​​​​          ถ้ามามองในมุมของตัวเลขการกระจายของเชื้อโควิดที่เมียนมา ในอาทิตย์ก่อนหน้านั่น มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันๆละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันถึงหนึ่งพันห้าร้อยราย ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม ถึงวันที่ 26 ธันวาคม ตัวเลขได้ปรับลดลงมา จะอยู่ที่ไม่ถึงหนึ่งพันคน โดยเริ่มจากวันที่ 19 มีรายใหม่เพิ่ม 985 ราย วันที่ 20 มีเพิ่ม 947  ราย วันที่ 21 มี 848ราย วันที่ 22 มี 964 ราย วันที่ 23 มี 923 ราย วันที่ 24 มี 919 ราย วันที่ 25 มี 758 ราย และวันที่ 26 มี 734 ราย  จะเห็นว่าอัตราการเพิ่มใหม่ของผู้ติดเชื้อลดลงไปเรื่อยๆ ผมจึงคิดว่าเราควรจะหันมามองดูเขาบ้างก็ไม่เสียหายนะครับ

​​​​​​​          ​​​​​​​ผมมิบังอาจจะกล่าวว่าเกิดจากโรงพยาบาลสนามของเราที่ส่งให้เขานะครับ เพราะเขาเองก็มีโรงพยาบาลสนาม ที่ได้รับบริจาคจากประเทศจีนอยู่ก่อนเราแล้ว อีกทั้งยังมีที่คหบดีชาวเมียนมาก็มีการบริจาคให้ด้วยเช่นกัน ดั่งที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นจึงเห็นว่าการบริหารจัดการ ด้วยการคัดแยกผู้ติดเชื้อให้อยู่ในที่ๆเหมาะสม อย่างเช่นโรงพยาบาลสนามนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็นที่สุดครับ ชาวมหาชัยเมื่อได้อ่านบทความบทนี้แล้ว อยากให้ท่านได้คิดและเข้าใจนะครับว่า นั่นไม่ได้มีอันตรายเลย หากมีการบริหารจัดการที่ดีมาก อีกอย่างเครื่องฟอกอากาศความดันต่ำนี้ ที่ประเทศไทยเราก็ได้มีการผลิตออกมาใช้แล้ว เพราะผมเองก็ซื้อหามาจากบริษัท AI Technology จำกัด ราคาจึงไม่ได้แพงมากเหมือนจัดซื้อจากต่างประเทศครับ 
   

​​​​​​​ 

          สุดท้ายอยากจะบอกว่า แพทย์และพยาบาลประเทศไทยเรา ท่านมีความสามารถ และทุ่มเทให้กับการปกป้องพวกเราชาวไทยอยู่แล้ว ขอเพียงให้เชื่อมั่นและทำตามที่ท่านบอกเถอะครับ และให้ฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น อย่าไปเชื่อข่าวลืออย่างเดียวเป็นพอ แล้วท่านจะปลอดภัย