เมื่อ“ทหารเมียนมา” ขี่หลังเสืออีกครั้ง

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3650 วันที่ 4-6 ก.พ.2564 กาแฟขม ประจำการรายงานข่าวสารเข้มข้นรับใช้ผู้อ่านเหมือนเช่นเคย

*** สถานการณ์ในเมียนมาเดือดขึ้นมาโดยฉบับพลัน เมื่อ พล.อ.มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 1ในผู้นำทหารผู้กุมชะตากรรมของเมียนมา ประกาศรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ที่มีอำนาจสูงสุดในเมียนมาฝ่ายพลเรือน และคณะทหารประกาศภาวะฉุกเฉินยาว 1 ปีและต่ออายุได้ 6 เดือน แหมคำพูดของนายพลเมียนมา จะ “ขอเวลาไม่นาน” ในการจัดการกับการทุจริตการเลือกตั้งของกกต.เมียนมาที่เป็นข้ออ้างรัฐประหาร แต่ก็แค่คำพูด เมื่อยึดอำนาจมาแล้วมีหรือจะลงกันง่ายๆ ไม่มีคณะทหารใดในประเทศใดใด ปล่อยมือจากอำนาจง่ายๆ

*** หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ ก็เรื่องเขา เกี่ยวอะไรกับเรา อาจเป็นมุมมองที่ตื้นเขิน ต้องไม่ลืมว่า เมื่อมีการรัฐประหาร ฝ่ายประชาธิปไตย ประชาชนอาจออกมาต่อต้าน อาจเกิดการล้อมปราบตามมา เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อาจมีการแตกกระสานซ่านเซ็นอพยพหลบหนี ถ้าเกิดสงครามยืดเยื้อ ต้องไม่ลืมเหตุการณ์ในเขมรหรือกระทั่งเมียนมาเองในอดีต เกิดความไม่สงบก็กระทบไปทั่ว ถ้าหากมีแรงกดดันจากนานาชาติถั่งโถมเข้ามาอีก เขาไม่กดดันแต่เฉพาะเมียนมา มหาอำนาจทั้งหลายต้องกดดันผ่านมายังประเทศเราด้วย หนักสุดหากมีการแทรกแซงจากต่างชาติ ประเทศตะวันตก มันก็ไม่ใช่เรื่องสนุก หลับตานึกภาพก็จะมองเห็นหากเพื่อนบ้านทะเลาะกันเขวี้ยงข้าวของใส่กันก็หลุดรอดมากระทบบ้านเรา หรือมีนักเลงโตเข้าไปคุมในบ้านของเพื่อนที่รั้วชิดติดกัน ก็ย่อมพัวพันมาถึงเรา

*** แถลงมาแล้วกรมการค้าต่างประเทศ การค้าชายแดนของไทยเฉพาะฝั่งเมียนมา มีมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2563 รวม 1.64 แสนล้านบาท ไทยส่งออก 8.7 หมื่นล้านบาท นำเข้า 7.7 หมื่นล้าน มีสัดส่วน 21% ของการค้าชายแดน และที่ด่านแม่สาย มีมูลค่าการค้า 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 35 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 1.1 หมื่นล้านบาท นำเข้า 1.4 พันล้านบาท ด่านแม่สอด มูลค่า 7.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 200 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 6.3 หมื่นล้านบาท นำเข้า 1 หมื่นล้านบาท และด่านระนอง มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 47 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 1.1 หมื่นล้านบาท นำเข้า 5.8 พันล้านบาท มีด่านการค้า 21 จุด เปิดอยู่ 3 จุด แม่สาย แม่สอด ระนอง ด่านแม่สายปิดก่อนช่วงเช้าก่อนเปิดให้มีการขนส่งสินค้าได้แล้ว แม่สอดและระนองยังเป็นปกติ ในเมียนมา กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังปกติ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้าง เปิดขาย แต่ปิดไว มีการเร่งซื้อสินค้า ธนาคารปิดทำการ และมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ แม้จะยังไม่กระทบรุนแรงวันนี้ แต่ไม่มีหลักประกันใดใดจะไม่มีการปิดด่านถาวรเป็นการชั่วคราว เหตุการณ์แบบนี้เคยประสบกันมาแล้ว นึกอยากจะปิดก็ปิดอยากจะเปิดก็เปิดแล้วอนาคตจะไม่กระทบได้อย่างไร  

*** ปากกล้าขาสั่นหรือไม่ มิอาจรู้ได้ ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ทำธุรกิจโรงไฟฟ้ามินบูในเมียนมา 2 พันเมกะวัตต์ บอกไม่กังวลกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเมียนมา ด้วยเหตุว่า โรงไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศ ซึ่งโรงไฟฟ้ามินบูเป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในวงกว้าง มองว่าการเมืองไม่กระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแต่อย่างใด โครงการจะดำเนินการและขายไฟฟ้าตามปกติ โรงไฟฟ้ามินบูดำเนินงานและรับรู้รายได้มาแล้วตั้งแต่ปลายปี 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการเฟสที่ 2-4 ตามแผนที่วางไว้

*** หลายธุรกิจบอกรัฐประหารในเมียนมา ไม่มีปัญหา ไม่มีผลกระทบ การค้า การลงทุนไทย เมียนมาประกาศชัดควบคุมภาวะฉุกเฉิน 1 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ชัดเจน แต่ในแง่ของภาพลักษณ์ที่นานาชาติมองอาจจะดูไม่ดี แต่ถ้าไม่มีสถานการณ์รุนแรงก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศของเมียนมาอยู่แล้ว แต่ระมัดระวังกันไว้ดีๆ ตัวอย่างของเมียนมาในการควบคุมของทหารนั้นก็เห็นมาแล้ว ธุรกิจที่ดีลกันแล้วอาจมีการเปลี่ยนพลิกได้ หรือการลงทุนใหม่ๆ การขยับขยายทางธุรกิจอาจไม่เกิดขึ้นตามแผนก็อาจเกิดขึ้นได้

*** กลับมาที่ประเทศไทยกันหน่อย ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังสูง แต่รัฐบาลก็ไม่อาจรองรับไหวในการให้หยุดงาน ปิดโน่น ปิดนี่ ร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ พอสถานการณ์ผ่อนคลายลงหน่อย ก็จำต้องอนุญาตเพิ่มขึ้น การค้า การขาย ฝืดเคืองติดขัดจริงๆ ถามแท็กซี่ได้ทุกคัน คำตอบเดียวกัน คือ เงียบ รายได้วันๆ ไม่พอส่งค่าเช่ารถ ไม่ต้องพูดถึงเหลือไปใช้อย่างอื่น ร้านอาหาร ทั้งในห้าง นอกห้างบ่นอุบ มีขายออนไลน์ได้บ้าง แต่เจอบวกค่าธรรมเนียม ค่าขนส่งแพง ผลก็คือขายได้น้อยลงไปอีก คนอยู่บ้านเขาก็ทำอาหารรัปประทานกันเองไปบ้าง

*** สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่นิ่งเฉยในยุคโควิด-19 ประกาศสนับสนุนสตาร์ทอัพเต็มที่ เร็วๆ นี้ จะประกาศโครงการใหญ่ พร้อมให้ทุนสตาร์ทอัพไทยที่เข้าท่า มีแนวคิดดีๆ แปรผลได้ ต้องเดินแนวนี้ ต้องหันไปหาอุตสาหกรรมใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ จึงจะทำให้ไทยอยู่รอด ทั้งภัยโควิดและการถูกดิสรัปจากเทคโนโนโลยี ก็ต้องเรียนรู้สู้ให้ได้ งานนี้ได้เห็นมิติใหม่การพัฒนาผู้ประกอบการไทยแน่ ขอให้เป้าประสงค์บรรลุ