@@@ ตลาดหุ้นทั่วโลก มีความหวังอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดบวก 603.14 จุด เป็นการปิดบวกมากที่สุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 63 เป็นต้นมา โดยมีปัจจัยหลักมาจากการที่คณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA ) อนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน”
<<< ทั้งนี้ สูตรยาปัจจุบันที่ใช้อยู่ของ “ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค” และ “โมเดอร์นา” ต้องฉีดสองโดสจึงจะได้ผล แต่ตัวยาของ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” แตกต่างใช้เพียงหนึ่งโดสเท่านั้น ขณะเดียวกันความหวังว่าเศรษฐกิจของสหรัฐจะฟื้นตัวเร็วขึ้นก็ใกล้เข้ามา เมื่อสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ผ่านแพ็คเกจเยียวยา Covid-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ก็เหลือแค่เพียงขั้นตอนการรับรองจากทางวุฒิสภาเท่านั้น
<<< ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ไม่มีปัจจัยใหม่อื่นใดเข้ามา ตอนนี้อาศัยแค่ตัวเลขเศรฐกิจของต่างประเทศมาใช้อ้างอิงเท่านั้น ส่วนใครจะทำได้ดีแค่ไหน ต้องอาศัยจังหวะและโอกาสที่หลายคนมองเห็นได้แตกต่างกัน เอาเป็นว่า เจ๊เมาธ์ให้กำลังใจทุกคนนะคะ
@@@ APURE (อกริเพียว โฮลดิ้งส์) อยู่ในสายตาเจ๊เมาธ์ มาตลอดค่ะในช่วงหลังมานี้ เพราะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ทั้งราคาหุ้นและกำไร ไม่ต้องดูอะไรมากนะคะ กำไรแต่ละไตรมาส เติบโตถล่มทลายทั้งปี 2562 เลยทีเดียว ...ปี 2563 กำไร 319 ล้านบาท โตทะลัก 997 % หรือแค่ไตรมาส 4 อย่างเดียว กำไร 110 ล้านบาท โตจากไตรมาส 3/63 ถึง 44% ...ก็กำไร All Time High นี่เอง ราคาหุ้น All Time High ด้วย และปี 2564 นี้ เจ๊เมาธ์แอบได้ยินมาค่ะว่า ยังเป็นปีที่ดีต่อเนื่อง ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยวอลุ่มขายล็อตใหญ่ ๆ จากต่างชาติ เติมเข้ามาไม่หยุด
@@@ CWT ของเสี่ยวี “วีระพล ไชยธีรัตต์” แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 63 ออกมามีกำไร 117 ล้านบาท โตขึ้น 11% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจเบาะรถยนต์ที่โตขึ้นตามปริมาณของการขายรถยนต์ ธุรกิจโรงไฟฟ้า ขายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 2 โรง คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา คือ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดนครสวรรค์ขนาดกำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันบริษัทได้สัญญาบริหารจัดการขยะแล้ว 25 ปี
<<< ที่ว่าเจ๋งเป็นพระเอกปีนี้ของ “เสี่ยวี” ก็คือ ธุรกิจรผลิตรถบัสทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและพลังงานไฟฟ้า รวมถึงเรือไฟฟ้าที่คาดว่าจะสร้างรายได้ขึ้นมาอย่างโดดเด่นในปี 64 นี้อีกด้วย เห็นของดีๆ แบบนี้ เจ๊เมาธ์ ต้องเอามาเล่าให้ฟังเป็นธรรมดา จับตาดูหุ้นตัวนี้ให้ดีนะคะ
@@@ KWM เป็นหุ้นที่โดดเด่น ตื่นเต้นในเกมส์หุ้นที่สุด แม้จะติดแคชบาลานซ์อยู่ก็ตาม แต่ตัวหุ้นติดตา-ตรึงใจนักเก็งกำไร สาเหตุเพราะ KWM มองโอกาสทางธุรกิจที่มาจากพืชกัญชงและกัญชา ที่แต่กต่างออกไปจากบริษัทอื่น ๆ ที่มองเรื่องการปลูก (ต้นน้ำ) หรือมองเรื่องการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ (ปลายน้ำ) แต่เพียงด้านเดียว
<<< KWM มองเรื่องการสกัดสารจากพืชกัญชงและกัญชา ซึ่งเป็นธุรกิจกลางน้ำจนถึงปลายน้ำด้วยการร่วมมือวิจัยและพัฒนาโครงการสกัดสารจากพืชกัญชา และกัญชง เพื่อนำไปสู่การผลิตยา และสมุนไพร ร่วมกับ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี หรือ JSP Pharma โดยทาง KWM มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชกัญชาและหรือกัญชงด้วยระบบที่ได้มาตรฐาน ในขณะที่ JSP Pharma มีประสบการณ์ด้านการผลิตยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ มีโรงงานได้มาตรฐาน
<<< ขณะเดียวกัน KWM ยังไปจับมือเป็นพันธมิตรกับ “ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น. อี. แฮมพ์ (N.E. Hanp) ซึ่งเป็นบริษัทผลิต จำหน่าย และนำเข้าวัตถุดิบเมล็ดกัญชง ในขณะที่หมวกอีกใบของ “ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการผู้จัดการของ NER ( นอร์ทอีส รับเบอร์) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ เมืองหลวงของกัญชงและกัญชาอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาหุ้น KWM เดินหน้าต่อ...แม้จะติดแคชฯ อยู่ก็ตาม
@@@ หุ้นอีกตัวที่เจ๊เมาธ์เห็นว่าโดดเด่น นั้นก็คือ COM7 หลังจากราคาหุ้นดีดแรงขึ้นมา ด้วยกำไรสุทธิ 1,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน , รายได้ 37,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% โดยมีรายได้จากธุรกิจค้าปลีก 34,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า COM7 ยังเติบโตได้อีก ด้วยการขยายสาขาที่มีอยู่ 911 สาขา และคาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 สาขา ในปี 64
<<< ขณะที่การต่อยอดธุรกิจกับ NCAP ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทร่วมของ COM7 (ถือหุ้นอยู่ 33.93%) ด้วยการเตรียมเพิ่มพอร์ตสินเชื่อสินค้าไอทีเพื่อสอดรับกับธุรกิจของ COM7 ที่ปัจจุบันมียอดขายที่ผ่อนผ่านบัตรเครดิตราว 1 หมื่นล้านบาท โดย บล.ฟิลลิป แนะนำ “ทยอยซื้อ” ประเมินราคาพื้นฐานปี 64 ใหม่ที่ 57.00 บาท หุ้นดี...สตอรี่เด็ด มันต้องแบบนี้ค่ะ
@@@ หลังจากหุ้น ZIGA ของเสี่ยหนุ่ย “ศุภกิจ งามจิตรเจริญ” ต้องพักตัว หลังจากขึ้นไปทดสอบ 7.90 บาท แล้วไม่ผ่าน รอบนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการตั้งฐานราคารอบใหม่ โดยไล่ราคา 6.35 บาทขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งถ้ามองราคาหุ้นผ่านเทคนิค มีชะงักบ้าง แต่ดัชนีชี้วัดทางเทคนิคของ ZIGA ยังไม่เสียหาย ไม่ว่าจะเป็น RSI ที่ยืนอยู่ที่ 58.38 หรือ MACD ที่ยืนอยู่ 0.70 และราคาหุ้นยังยืนเหนือค่า EMA 15 45 และ 100 อยู่ได้ ดังนั้นการที่ ZIGA จะผ่านแนวต้านเดิมที่ 7.00 และ 7.40 เพื่อข้ามไปที่ 7.90 บาทซึ่งเป็นไฮเดิม มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน ลองจับตาดูดี ๆ นะคะ ราคาหุ้นจะเป็นตัวบอกเองค่ะว่า เจ๊เมาธ์คิดมากไปเองหรือเปล่า
@@@ เจ๊เมาธ์ดีใจด้วยกับผู้ถือหุ้น NMG หุ้นถูกแขวนซื้อขายมานาน 2 ปีเต็ม ซึ่งวันที่ 3 มี.ค.นี้ ได้กลับมาซื้อขายกันอีกครั้ง หลังเนชั่นฯ ส่งงบการเงินปี 2561 , งบไตรมาส 1-3 และงบปี 2562 รวมทั้งงบไตรมาส 1-3/2563 ครบถ้วนแล้ว ถึงจะปลด SP ให้ซื้อขายได้ แต่ยังขึ้นเครื่องหมาย C ต่อไป เพราะส่วนของผู้ถือหุ้นยังต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ที่สำคัญการติด C นักลงทุนต้องวางเงินสดก่อนซื้อขายนะค่ะ