วันพักผ่อนอันแสนเลอค่า @ “อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท”ไม่ใช่แค่ทัศนียภาพท้องทะเลอันดามัน ริมหาดกมลา อันเงียบสงบเท่านั้น
แต่ยังมีความโดดเด่นจากแลนด์สเคปและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Heaven on Earth แรงบันดาลใจจาก “ไตรภูมิพระร่วง” ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์อันงดงาม
เราจึงไม่พลาดที่จะไปปักหมุดเช็คอินกัน จากสนามบินภูเก็ตใช้เวลาราว 30 นาที ก็ถึงรีสอร์ท มาครั้งแรกก็แปลกใจนิดหน่อยว่าโรงแรมมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่ง “บีช” และ “ฮิลล์” อยู่กันตรงข้ามฝั่งถนน จะให้ข้ามถนนไปมาอีกฝั่งก็คงไม่ใช่ พอได้มาพักถึงรู้ว่ามีอุโมงค์เป็นทางเชื่อมอยู่ใต้ดิน
ต้องยอมรับว่าจากดีไซน์อันชาญฉลาดของการออกแบบและจัดวางแลนด์สเคป ทำให้ทั้ง 2 ฝั่งเชื่อมโยงกันได้แบบรื่นไหล โดยมีวรรณกรรมไทยเก่าแก่ อย่าง “ไตรภูมิพระร่วง” ร้อยเรียงเรื่องราวของ 3 โลก คือ สวรรค์ มนุษย์ และบาดาล รวมถึงการตกแต่งต่างๆในโรงแรม ก็จะเกี่ยวข้องกับวรรณกรรมที่จะพบเห็นได้ อย่างประติมากรรม “กวนเกษียรสมุทร”
ห้องพักของรีสอร์ทมีทั้งหมด 221 ห้อง แยกกันไปตามโซน“บีช” และ “ฮิลล์” ไฮไลต์ของอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ตอยู่ที่สถาปัตยกรรมศาลาไทยสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งฮิลล์ โซน ที่เรียกว่า “สวรรค์” ลวดลายวิจิตรงดงาม มีทิวเขาเป็นฉากหลัง
จากล็อบบี้ ที่เรียกกันว่าเป็น “โลกมนุษย์” มองออกไป จะรู้สึกเหมือนเห็นแดนสวรรค์ชั้นฟ้าที่อยู่อีกโลกหนึ่ง ทำเราอดใจไม่ไหวที่ด้านเดินลงไปเยือน
ศาลาไทย ตอนกลางวันว่าสวยแล้ว แต่ตอนกลางคืนยิ่งสวยกว่า
ต้องยกนิ้วให้กับไลท์ติ้ง ที่จัดแสงให้แดนสวรรค์แห่งนี้เจิดจรัสในยามท่ามกลางค่ำคืน
โดยเฉพาะระหว่างทางเดินไปยังศาลาไทย เราต้องเดินผ่านทางเดินกระจกเงิน วิบวับแวววาวรอบตัว ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เปรียบเสมือนกำลังอยู่ในป่าหิมพานต์ อันเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์นั่นเอง
รอบศาลาไทย ก็จะมีทั้งห้องพักส่วนที่เป็นวิลล่า พูลวิลล่า และห้องพักบนอาคารโลว์ไรซ์ แม้จะอยู่ฝั่งฮิลล์ไซด์ แต่ก็เห็นทัศนียภาพของศาลาไทยชัดเจน
ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงหลังฝนตก จะเห็นกลุ่มหมอกหนา โอบรอบทิวเขา ล่องรอยอยู่เหนือศาลาไทย ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจไปอีกแบบ
นอกจากนี้ฝั่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เชื่อมกับสระพูลแอสเซส
รวมถึงสระว่ายน้ำเก๋ๆบนชั้นดาดฟ้าของล็อบบี้ด้วย
ส่วนคิดส์คลับก็น่าจะเหมาะกับเด็กน้อย ส่วนผู้ใหญ่อย่าวเราๆขอไปฟิตเนสดีกว่า ซึ่งเขาการก็จะแยกการให้บริการออกมาเป็นสัดส่วน
ที่นี่ชั้นขึ้นชื่อเรื่องของห้องอาหารปิ่นโต ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากย่านเมืองเก่าของภูเก็ต กับเมนูนานาชาติสไตล์ Farm to Table แต่ช่วงที่เราไปห้องอาหารนี้ปิดบริการอยู่ เรียกได้ว่าฝั่งนี้แม้จะไม่เห็นทะเล แต่ก็ได้ฟิลชั้นเลิศในอีกแบบ
ว่าแล้วก็ถึงเวลาไปทะเลกันแล้วนะ ซึ่งการเดินทางจากฮิลล์ ไซด์ ไป บีช ไซด์ เดินชิลล์ๆลงอุโมงค์ชมภาพเพ้นท์เรื่องราวต่างๆในภูเก็ต แป็ปเดียวก็ถึงแล้ว
ส่วนใครไม่อยากเดินทางรีสอร์ทก็มีรถกอล์ฟวิ่งบริการรับ-ส่งอยู่ โดยฝั่งบีช ไซด์ เปรียบเสมือนกับ “เมืองบาดาน”
ห้องพักฝั่งนี้จะเป็นห้องพักโซนคลับ และห้องสวีทซีวิว เราเลือกที่จะพักห้องคลับ โอเชี่ยล สวีท เพราะมาทะเลทั้งทีก็อยากอยู่ติดทะเล
ดีไซน์ของห้องพักจะเป็นสไตล์ไทยร่วมสมัย ให้มู้ธแอนด์โทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และที่เก๋สุดๆคือตรงหัวเตียงนอน เขาใช้แผ่นทองคำมาแปะ แล้วใช้มือสะกิดทำเป็นรูปใบสน
ส่วน Amenities ในห้องนอนใช้ผลิตภัณฑ์ของHARNN เหมือนกันทุกห้อง และโรงแรมจะหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติคทั้งหมด เพราะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากๆ ขนาด Key card พลาสติค ก็กลายเป็นไม้ พวก take away ก็เป็นกระดาษ
สำหรับใครที่พักในห้องพักระดับคลับขึ้นไป ก็จะสามารถใช้บริการ “คลับ อินเตอร์คอนติเนนตัล”ได้ฟรีตลอดทั้งวัน ทั้งอาหารเช้า ที่มีให้เลือกทานตามเมนูที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
อาฟเตอร์นูน ที แนะนำให้ทานสโคนที่นี่อร่อยมาก และอีกหลายเมนูขนมหวานทานคู่ชา กาแฟ เข้ากันดีมาก
ส่วนช่วงเย็นจะให้บริการคอกเทล คานาเป้ คำเล็กๆน่าทาน นอกเหนือจากบริการเครื่องดื่มต่างๆที่พร้อมเสริฟตลอดทั้งวัน พื้นที่ในคลับเล้าจญ์แห่งนี้มีทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ และมีสระว่ายน้ำเห็นวิวทะเลไว้รองรับลูกค้าที่ใช้บริการในคลับโดยเฉพาะอีกด้วย
นอกจากนี้ในฝั่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของห้องอาหารจรัส ให้บริการแบบออลเดย์ไดนิ่ง มื้อเช้าจะให้บริการไลน์บุฟเฟ่ต์ ส่วนมื้อกลางวันและเย็น จะให้บริการแบบ A La Carte ให้เราเลือกสั่งได้ตามเมนู ซิกเนเจอร์เมนูของห้องอาหารนี้มีหลากหลาย อาทิ มัสมั่นแพะไม่เหม็นสาบ ทอดมันปู ผัดไทยกุ้งสด นี่อร่อยสุดๆ
อีกร้านอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ คือ “พาย บีช คลับ” ห้องอาหารริมทะเลแนวบีชคลับ ซิกเนเจอร์ เมนู ต้องนี่เลย “พิซซ่าหน้าเห็ดทรัฟเฟิล” อร่อยๆสุดจนต้องขอเปิ้ล
ทั้งทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการแสดงโชว์ควงไฟ หน้าหาดให้นักท่องเที่ยวได้รับชมด้วย บอกได้เลยว่าการแสดงฝีมือไม่ธรรมดาเลย
จุดเด่นของหาดกมลา คือความเป็นธรรมชาติของชายหาด ซึ่งทางรีสอร์ท ยังคงทิวสนไว้เหมือนเดิม
ถ้าว่ายน้ำชมทะเลจนพอใจ กิจกรรมริมหาดที่หลายคนนิยม ก็มีทั้งเซิร์ฟบอร์ด หรือจะเล่นน้ำทะเลชิลๆไป แต่สิ่งที่ห้ามพลาดคือการรอชมพระอาทิตย์ตกทะเล ที่เขาว่าที่นี่สวยมาก แต่เสียดายตอนที่เราไปออกครึ้มหน่อยๆเลยพลาดโอกาสนี้ไป
เลยบอกตัวเองว่าใครหน้าจะหาเวลามาใหม่ เดี่ยวรอใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน จากปกติคืนละ 6,500-9,500 บาท ลดเหลือราว 3-4 พันบาท แต่ถ้ามาช่วงนี้โรงแรมมีโปรโมชั่นลดราคา35% กับโปรเริ่มต้น 2,500บาท++ต่อคืนไม่รวมอาหารเช้า โรงแรมระดับนี้ ถ้าเราจ่ายในราคานี้ก็คุ้มค่าสมราคา กับประสบการณ์ดีๆในวันพักผ่อนเพื่อชาร์ตพลังบวกให้ชีวิต
คอลัมภ์ : ดีแต่เที่ยว (เช็คที่กิน ฟินเรื่องเที่ยว) BY ธนวรรณ วินัยเสถียร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :