ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ออกประกาศเรื่อง ญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงโตเกียว และ 3 จังหวัดในเขตปริมณฑล เป็นครั้งที่ 2
เรื่องญี่ปุ่นออกประกาศระงับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นจากทุกประเทศและภูมิภาคเป็นการชั่วคราวนั้น
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 เวลา 18.00 น. นายซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงโตเกียว และ 3 จังหวัดในเขตปริมณฑล ได้แก่ จังหวัดคานากาวะ จังหวัดชิบะ และจังหวัดไซตามะ โดยมีผลจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 มีรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้
1. ขอความร่วมมือร้านอาหารและเครื่องดื่มหยุดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เวลา 19.00 น. และปิดให้บริการภายในเวลา 20.00 น. โดยรัฐบาลจะให้เงินชดเชยกับร้านที่ให้ความร่วมมือ ไม่เกิน 1.8 ล้านเยน/ร้าน/เดือน
2. ขอความร่วมมือภาคเอกชนอนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้าน หรือเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดจำนวนพนักงานที่เดินทางไปทำงานที่สำนักงานให้มากกว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป
3. ขอความร่วมมือประชาชนไม่ออกจากบ้านหากไม่มีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนหลัง 20.00 น.
4. ขอความร่วมมือสถานประกอบการประเภทต่าง ๆ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สปอร์คลับ สถานออกกำลังกาย ร้านปาจิงโกะ livehouse และสถานบันเทิงประเภทต่าง ๆ เป็นต้น ปิดให้บริการภายในเวลา 20.00 น. และหากมีการจำหน่ายเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์ ขอให้ปิดให้บริการภายในเวลา 19.00 น.
5. อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ได้แต่จำนวนผู้เข้าร่วมต้องไม่เกิน 5 พันคน หรือไม่เกินร้อยละ 50 ของความสามารถจุคนของสถานที่จัดงาน
6. ไม่สั่งปิดสถานศึกษา อย่างไรก็ดี ส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์ ทั้งนี้ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 ยังคงจัดขึ้นตามกำหนดเดิม
7. ขอให้เลื่อนหรือยกเลิกการจัดพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะ (Coming of Age Day ตรงกับวันที่ 11 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ)
8. ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาล อย่างไรก็ดี อาจมีการเปิดเผยชื่อสถานประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือ
9. เพิ่มเงินชดเชยสำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ให้ความร่วมมือในการลดระยะเวลาเปิดให้บริการ จากเดิมร้านละ 4 หมื่นเยนต่อวันเป็น 6 หมื่นเยนต่อวัน
10. รัฐบาลจะมีมาตรการให้เงินช่วยเหลือโรงพยาบาลและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
1) ให้เงินช่วยเหลือโรงพยาบาลที่เพิ่มเตียงสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เตียงละ 4.5 ล้านเยน และสำหรับผู้ป่วยหนักเตียงละ 20 ล้านเยน
2) ให้เงินอุดหนุนพนักงานที่ต้องหยุดงาน ทั้งพนักงานประจำและพาร์ทไทม์ จำนวน 15,000 เยนต่อวัน
3) ให้เงินช่วยเหลือสำหรับธุรกิจที่ประสบปัญหาการหมุนเวียนเงินในธุรกิจ รายละไม่เกิน 1.4 ล้านเยน
4) ปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยและสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จำนวน 40 ล้านเยน
11. ขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งมีจำนวนรวมมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เพิ่มความระมัดระวังป้องกันตนไม่ให้ติดเชื้อ เนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการสามารถแพร่เชื้อให้คนชราหรือผู้มีร่างกายอ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงได้
12. รัฐบาลกำลังทบทวนกฎหมายมาตรการพิเศษ เพื่อให้สามารถลงโทษผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือได้ และจะเสนอเรื่องต่อรัฐสภาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ มีกำหนดเปิดสมัยประชุมรัฐสภาญี่ปุ่นในวันที่ 18 มกราคม 2564
13. รัฐบาลกำลังเร่งการทดลองทางคลินิกสำหรับวัคซีน และกำลังทบทวนมาตรการให้วัคซีนเป็นลำดับขั้น คาดว่า จะสามารถเริ่มให้วัคซีนได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
เมื่อ 8 มกราคม 2564 หลังจากที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นทุกคน ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ จะต้องยื่นผลตรวจ PCR เป็นลบที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่นและจะต้องรับการตรวจเชื้ออีกครั้งเมื่อเดินทางถึง ท่าอากาศยานที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะบังคับใช้จนกว่าจะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รายละเอียดเพิ่มเติมดังปรากฏตามคำแปลมาตรการอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ดังแนบ
ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นอาจปรับปรุงมาตรการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ท่านสามารถติดตามสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
จึงขอประกาศมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 12 มกราคม2564
(นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์)
เอกอัครราชทูต