”แอปฯ “หมอชนะ” เปลี่ยนระบบใหม่ โละข้อมูลที่ไม่จำเป็น

13 ม.ค. 2564 | 20:00 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2564 | 03:58 น.

“หมอทวีศิลป์” เผย แอปพลิเคชั่น เปลี่ยนระบบใหม่ ใช้ง่ายแค่ถ่ายรูปลงทะเบียน ตัดชุดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก

นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ดโควิด-19 (ศบค.)  แถลงเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 ถึงเรื่องของ การใช้แอปพลิเคชั่นหมอชนะ ที่ได้มีการโต้เถียงกันผ่านโลกโซเชียล ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น โดยได้มีผู้ใช้แอปติ๊กต๊อก ได้มีการเผยแพร่ว่าตนเองนั้นได้ของใช้แอปพลิเคชั่นหมอชนะ

 

ซึ่งได้มีการเลือกแบบสอบถามถึงความเสี่ยงสูงสุดทุกข้อ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือมีความเสี่ยงน้อย จนทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยในตัวของแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ว่าช่วยได้จริงๆ หรือป่าว และมีความน่าเชื่อถือหรือไม่

 

นายแพทย์ทวีศีลป์ ระบุว่า ได้มีการประชุมกับ (ศบค.) โดยมีการแจ้งมาว่า ได้มีการประชุมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ซึ่งเป็นหน่อยงานที่รับผิดชอบเรื่องของแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ร่วมกับ กรมควบคุมโรค ได้มาประเมินและพูดคุยกันว่า ชุดข้อมูลไหนที่มีความจำเป็นหรือไม่ต้องการบ้าง ซึ่งในตอนนี้ได้มีการตัดชุดคำถามนี้ออกไปหมดแล้ว หรือชุดคำถามที่ได้มีปัญหาได้ตัดออกไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งได้มีเพียงแค่การลงทะเบียน กับ การถ่ายหน้าตรงของเรา เพื่อระบุตัวตน นั้นยังคงมีอยู่ในขณะนี้ 

โดยการใช้แอปพลิเคชั่นหมอชนะ ในตอนนี้มีขั้นตอนที่ง่ายนิดเดียว เพียงแค่คุณถ่ายรูปหรือนำรูปของตัวเองใส่เข้าไป และรอคิวอาร์โค้ดออกมาว่าคุณนั้นอยู่สีอะไร  โดยถ้าในตอนนี้ท่านอยู่ในพื้นที่ ที่ไม่ได้มีการติดเชื่อก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งมีความต้องการเข้าถึงเคสตัวอย่างที่มีการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นจังหวัดทั้งหลายที่อยู่ในขอบเขตของ 28 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เมื่อเราได้เอาจำนวนตัวเลขชุดนี้เข้าไป ก็จะทำให้ระบบสามารถที่จะบอกเราได้ว่าเรามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด 

ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ถ้ามีจำนวนของผู้ที่เราไปใช้ระบบมีจำนวนที่มากเพียงพอ ก็จะทำให้เรามีระบบนิเวศของคนหรือมีข้อมูลที่มายิ่งขึ้น และสามารถเตือนเป็นข้อมูลที่เรานำมาใช้ได้การเตือนของผู้ที่เราใช้แอปพลิเคชั่นหมอชนะได้อีกด้วย ซึ่งทางระบบจะมีการเตือนขึ้นผ่านหลายช่องทาง เช่นการส่ง SMS หรือจะเป็นการเตือนผ่านทาง แอปพลิเคชั่นหมอชนะได้เลย ว่าเรานั้นควรที่จะมีการกักตัวหรือป่าว หรือต้องมีการไปตรวจหรือไม่ ถ้าเราไปอยู่ใกล้ยังพื้นที่ ที่มีความเสี่ยง หรือไปยังพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงการไปพบเจอผู้ที่ติดเชื้ออีกด้วยนั้นเอง