"หมอธีระ" ย้ำควรตรวจ"โควิด"ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงทุกคน

20 ม.ค. 2564 | 21:05 น.

"หมอธีระ" ระบุการสุ่มตรวจ"โควิด"จากพื้นที่เสี่ยง - กลุ่มเสี่ยง อาจไม่เกิดประโยชน์ ยืนยันสิ่งที่ควรทำคือตรวจทุกคน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat " เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยว่าตอนนี้การระบาดซ้ำได้กระจายไปทั่วประเทศ พร้อมแนะว่าตามพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดควรตรวจหาเชื้อโควิดทุกคน ไม่ควรใช้วิธีการสุ่ม

 
 สำหรับเนื้่อหาข้อความที่โพสต์โดยละเอียดมีดังต่อไปนี้


ระบาดซ้ำครั้งนี้กระจายไปทั่วประเทศ และครอบคลุมทั้งกลุ่มเสี่ยง และคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตประจำวันแบบเราๆ ท่านๆ


เวลาติดในกลุ่มเสี่ยง เช่น บ่อนพนัน แรงงานต่างด้าว มักจะจัดการได้ไม่ยาก เพราะเห็นเป้าหมายชัดเจน และวิธีที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุดคือ การตรวจกลุ่มเสี่ยงเหล่านั้นในพื้นที่ที่มีการระบาดนั้นให้ครบถ้วน


แต่เวลาติดในคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตประจำวันในสังคมนั้น ไม่ว่าจะระหว่างสมาชิกในครอบครัว ญาติโกโหติกา เพื่อนสนิทมิตรสหาย คนที่ที่ทำงาน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยว วัด งานแต่งงาน งานศพ งานบวช สถานบันเทิงทั่วไป ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ นั้น ยากยิ่งนักที่จะไล่ตรวจได้หมดทุกคน


 สิ่งที่ทำได้ในกรณีนี้คือ การรณรงค์ให้ป้องกันตัวเองและครอบครัวไม่ให้ติดเชื้อ ปฏิบัติตัวใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่างๆ อย่างเป็นกิจวัตร และหากระบาดซ้ำรุนแรงในแต่ละพื้นที่ ก็ต้องหยุดคนให้อยู่นิ่ง ทำงานที่บ้าน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นในช่วงเวลา 2-4 สัปดาห์ เพื่อตัดวงจรการระบาด และสอนให้คนรู้จักประเมินความเสี่ยง และประเมินอาการตนเอง หากไม่สบาย ต้องรีบไปตรวจรักษา โดยควรจัดระบบบริการตรวจที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ สะดวก และเพียงพอ


 

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มเสี่ยงที่เห็นชัดเจนในพื้นที่ที่มีการระบาด ยังไม่เห็นข้อมูลการตรวจที่ครบถ้วน โรงงานที่มีการใช้แรงงานคนนั้นยิ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ยิ่งควรตรวจให้หมดทุกคน หากตรวจโดยสุ่มเอา ก็จะได้ตัวเลขตามกลุ่มที่สุ่มมา มีโอกาสหลุดสูง การสุ่มตรวจ เหมาะจะทำในภาวะปกติที่โรคสงบแล้ว สุ่มตรวจเป็นระยะ เพื่อเฝ้าระวัง

 

แต่ขืนมาทำในช่วงที่ระบาดซ้ำแบบนี้ ก็จะมีโอกาสระบาดซ้ำซากปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ และทำให้กลายเป็นแดนดงโรค หรือ endemic area ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่ในระยะยาว และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก

 

สัจธรรมที่เราเห็นและปฏิเสธได้ยากคือ ไม่ตรวจก็จะไม่เจอ ตรวจน้อยก็มีโอกาสเจอน้อย ตรวจมากก็มีโอกาสเจอมาก

 

การตรวจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เราสามารถพบเคสติดเชื้อที่อยู่ในชุมชนและที่ต่างๆ เพื่อทำการดูแลรักษาเค้าเหล่านั้น และลดโอกาสการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นในชุมชน

 

ที่มีข่าวบอกว่าจะตรวจโรงงานเป็นหมื่นแห่ง ระดมตรวจวันละ 600 แห่ง แต่สุ่มตรวจเพียงแห่งละ 50 คน และวางแผนจะปิดจ็อบภายในเดือนนี้นั้น อยากเรียนด้วยความปรารถนาดีว่า การสุ่มตรวจในกิจการเสี่ยง กลุ่มเสี่ยง และในพื้นที่เสี่ยงแบบนี้นั้น อาจไม่เกิดประโยชน์ครับ เพราะสิ่งที่ควรทำคือตรวจทุกคน 


หากยังทำแบบ one size fits all แบบนี้ต่อไป เชื่อขนมกินได้ว่า ก็จะมียอดติดเชื้อน้อย ดูปลอดภัย ใสสะอาด วางใจได้เชื่อฉันเหอะ...แต่ไม่สะท้อนสถานการณ์จริง...


ยืนยันที่จะแนะนำพวกเราทุกคนให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดครับ ...ด้วยรักต่อทุกคน