นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ก้าวต่อไปการ์ดไม่ตก หลังโควิดระลอกใหม่” ในงานสัมมนา “พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” ว่า เป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยอยู่ที่เดือนมิถุนายน 64 โดยจะทยอยฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสไปจนถึงปลายปี
ทั้งนี้ จะใช้วัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา ที่เลือกให้บริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ เป็นฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน กำลังการผลิต 200 ล้านโดส ซึ่งเชื่อว่าน่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่คนไทย โดยไม่เกิดปัญหาสะดุดเหมือนกรณีวัคซีน 5 หมื่นโดสแรกที่สหภาพยุโรป (อียู) สั่งระงับการส่งออก
สำหรับตอนนี้การจัดหาวัคซีนโดยรัฐบาลได้ทำสัญญากับแอสตราเซเนกาแล้ว 26 ล้านโดส และกำลังจะยืนยันการจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส หลังจากนั้นจะจัดหาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชาชนจำนวน 50 ล้านคนแน่นอน โดยจะพิจารณาวัคซีนของบริษัทอื่นๆ ด้วย
นายอนุทิน กล่าวต่อไปอีกว่า ขอให้เกิดความมั่นใจและสบายใจได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีหน้าที่จัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนในประเทศ โดยที่คนไทยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งทุกคนจะได้รับวัคซีนฟรี ในฐานะที่เป็นคนไทยที่เสียภาษี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายชัดเจนว่ารัฐบาลต้องจัดหาวัคซีนให้ประชาชน
“สถานการณ์ขณะนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย ถึงแม้การเจรจาซื้อวัคซีนเข้าก่อนจะสะดุดแต่ไม่กระทบต่อการป้องกันโรค และเราคำนึงถึงประสิทธิภาพ ไม่ใช่ราคาถูกอย่างเดียว เราไม่ได้หลุดแทรก ยังเดินตามไทม์ไลน์ ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็น Free Covid-19 ก่อนประเทศอื่น แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่าวัคซีนไม่ได้ป้องกันติดเชื้อ แต่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต”
ส่วนผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลอย่างรอบคอบ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ ถือว่าไม่รุนแรง สามารถควบคุมได้จึงไม่จำเป็นต้องเป็นหนูทดลองเรื่องวัคซีน แต่ก็จะไม่ประมาท ขณะที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 2 หมื่นราย แต่รักษาหายแล้ว 1.4 หมื่นราย ถือว่าไทยมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง
อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าเมื่อได้รับวัคซีนแล้วไม่ใช่จะถอดหน้ากาก แต่ยังต้องใช้ชีวิตแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) ต่อไปสักระยะหนึ่ง โดยทุกอย่างยังเป็นทฤษฎี ซึ่งการฉีดวัคซีนจะต้องระมัดระวังอย่างมาก โดยไทยถือว่าไม่ได้ล่าช้า และมีการศึกษามาหลายเดือนแล้ว อย่านำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีการติดเชื้อวันละหลายหมื่นหลายแสนคน
“การจัดหาวัคซีนนั้นทุกประเทศดำเนินการเช่นกัน โดยก่อนอื่นขอให้นำเรื่องวัคซีนออกจากประเด็นการเมือง เพราะไม่มีใครกล้านำชีวิตของประชาชนมาเป็นหลักประกันเพื่อสร้างชื่อเสียงทางการเมือง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนฟรีทุกคน”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ไม่ได้เกิดจากคนไทยการ์ดตก แต่มีคนลักลอบนำเชื้อโรคเข้ามา สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นการสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งให้เกิดความมั่นใจ สร้างความพร้อม โดยจะต้องรักษาสมดุลให้เหมาะสม คือ การดูแลระบบธุรกิจไปพร้อมๆ กับความสามารถในการดูแลผู้ป่วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ดีเจมะตูม" ไลฟ์สดผ่านไอจีส่วนตัว ยอมรับวันเกิดดื่มเหล้าในห้องโรงแรมหรูจริง
โควิด-19 ถึงเวลาช่วยชาติ "หมอยง" ชวนบริจาคพลาสมารักษาผู้ป่วย
บางจาก ผุดกิจกรรม “คันละบาท” ช่วยสมุทรสาครฝ่าโควิด-19 ระลอกใหม่
อั้นไม่ไหว "ซีพี"ดัน 6 โรงแรมหรูขายสตรีทฟู้ด-ปาท่องโก๋สู้โควิด
เผย 5 เขต กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมสูงสุด